สสว. หน่วยงานที่เกิดมาเพื่อช่วยพัฒนา SME ไทย ให้เติบโตสู่สากล

169
  • เป็นการดีหากผู้ประกอบการ SME ไทยมีพี่เลี้ยงที่คอยดูแล ให้คำปรึกษา ร่วมพัฒนาธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ อย่างไม่มีค่าใช้จ่าย และมีส่วนช่วยให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้อย่างยั่งยืนอย่างหน่วยงาน สสว.
  • สสว. เป็นหน่วยงานภาครัฐที่เข้ามามีส่วนร่วมในการ เป็นผู้ที่ผลักดัน SME ไทยให้ก้าวหน้า เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางของ SME เลยก็ว่าได้
  • หน่วยงานสามารถเข้ามาช่วยเหลือ และส่งเสริมกิจการของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการแบ่งกลุ่มของ SME ออกตามรายได้ และระยะเวลาการทำธุรกิจ ทำให้พร้อมช่วยเหลือได้อย่างตรงจุด
  • ผู้ประกอบการไทยสามารถเข้ามาขอคำปรึกษาได้อย่างสะดวกสบาย ไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้งที่สำนักงาน เว็บไซต์หน่วยงาน และแอพลิเคชัน โดยจะมีโค้ชคอยให้คำแนะนำอยู่เสมอ

ในการทำธุรกิจนั้นการมีตัวช่วยที่ดีย่อมช่วยให้กิจการสามารถดำเนินไปได้เร็วกว่าการไม่มีตัวช่วยใด ๆ เลย ถือว่าเป็นเรื่องดีที่ SME ไทยได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นในด้านของแหล่งความรู้หรือแหล่งเงินทุน วันนี้เราจะมาแนะนำหน่วยงานที่ชื่อว่า

สสว. หรือชื่อเต็ม ๆ คือ  หน่วยงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม อยู่ภายใต้สำนักนายกรัฐมนตรี ที่นี่เป็นตัวช่วยให้ SME ไทย ร่วมพัฒนาธุรกิจให้เติบโต และอยู่รอด โดยจะเป็นผู้ที่ผลักดัน SME ไทยให้ก้าวหน้า เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางของ SME เลยก็ว่าได้

ทางหน่วยงานมีการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนด้วยเว็บไซต์ www.smeone.info เป็นธุรกรรมออนไลน์ที่จัดเก็บองค์ความรู้ และข้อมูลดำเนินธุรกิจครบวงจรสำหรับSME ที่นำเสนอในรูปแบบ One stop service  แล้วหากมีคนสงสัยว่า ธุรกิจของเราเองนั้นเป็น SME หรือไม่ และอยู่ในกลุ่มไหน วันนี้ทางหน่วยงาน สสว. ก็มีคำตอบมาให้ว่าจะส่งเสริมกิจการของคุณในด้านใดได้บ้าง โดยการแบ่งกลุ่มของ SME มีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท ดังนี้

1.การแบ่งกลุ่มตามรายได้

  • กลุ่ม Micro คือ กลุ่มที่เพิ่งเริ่มต้นทำธุรกิจครั้งแรก รายได้ตั้งแต่ 1 -ไม่เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี โดยในไทยมีทั้งหมด 2.3 ล้านราย
  • กลุ่ม S คือ กลุ่มรายได้ตั้งแต่ 1.8 – 50 ล้านบาทต่อปี
  • กลุ่ม M คือ กลุ่มรายได้ตั้งแต่ 50 – 500 ล้านบาทต่อปี

2. การแบ่งกลุ่มตามระยะเวลาทำธุรกิจ การช่วยเหลือธุรกิจแต่ละกลุ่มของ สสว. ก็จะแตกต่างกันออกไป

  • Start Up (ระยะเวลาทำธุรกิจไม่เกิน 3 ปี) ทางหน่วยงานจะให้ความช่วยเหลือโดยการกระตุ้นให้มีการเติบโต และแข็งแรง ยกระดับพัฒนา เปลี่ยนจากความคิดให้เป็นธุรกิจ โดยการจัดอบรมเพื่อสร้างรากฐานให้แก่ธุรกิจนั้น ๆ
  • Regular (ระยะเวลาทำธุรกิจตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป) ทาง สสว. จะมีการปรับกิจกรรมเพื่อให้คำปรึกษาในเชิงลึก และเริ่มเข้ามามีส่วนช่วยในการแก้ไขปัญหาจากต้นเหตุ จนเมื่อธุรกิจมั่นคง
  • Strong (ธุรกิจกลุ่ม Regular ที่พัฒนาจนมั่นคงแล้ว) จะเน้นผลักดันสู่ต่างประเทศ โดยจะเสาะหาตลาดที่เหมาะสม ซึ่งธุรกิจในกลุ่มนี้จะต้องมีความพร้อมมากพอสมควร
  • Turn Around (ธุรกิจกลุ่ม Regular ที่อยู่ในภาวะวิกฤต) ทางหน่วยงานจะมีการจัดตั้งกองทุนฟื้นฟู เพื่อประคับประคองธุรกิจให้แข็งแรง

นอกจากนี้ สสว. ยังมีโค้ชกว่า 2,200 คน มาคอยให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการ โดยโค้ช 1 คนต่อผู้ประกอบการเพียง 5 ท่าน พร้อมทั้งมีการส่งโค้ชที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญเหล่านี้ ลงมาช่วยดูแลผู้ประกอบการอย่างใกล้ชิด เพื่อให้คำแนะนำตั้งแต่การเริ่มต้นทำโมเดลธุรกิจ และยังมีการให้คำปรึกษาผ่านแอพลิเคชั่น SME Connect เพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการอีกด้วย

สุดท้ายนี้ คุณสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล หรือคุณเสือ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมได้ให้คำตอบเกี่ยวกับคำถามที่ว่าจริงหรือไม่ที่ SME ส่วนใหญ่ทั่วโลกต้องปิดตัวลงภายใน 3 ปี คุณเสือมองว่า เป็นกลไกลของการทำธุรกิจ เนื่องจากการเริ่มต้นทำธุรกิจในแบบที่ไม่ได้ศึกษามากพอ เริ่มต้นแบบง่าย ๆ จะทำให้ธุรกิจมีระยะเวลาการทำกำไรที่สั้น และปิดตัวลงในที่สุด

ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้ประกอบการสมัยใหม่อย่างเรา สามารถมาขอคำปรึกษา หาคำแนะนำ จากผู้เชี่ยวชาญผู้มีความรู้ ความสามารถพร้อมที่จะสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ เพื่อ SME ไทย ให้พัฒนาไปอย่างแข็งแรง สู่ตลาดโลก ได้จากที่สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมแห่งนี้ ที่สำคัญ ทุกกระบวนการไม่มีค่าใช้จ่ายอีกด้วย