พบกับเรื่องราวของ Digital Transformation พร้อมเรียนรู้เทรนด์ดิจิทัลในปี 2019 เพื่อให้ธุรกิจ SMEs ไทย ก้าวทันโลก เรียนรู้วิธีการปรับตัว และการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจ กับสาวมากความสามารถ เจ้าของหนังสือ Best Seller “ใช้ Facebook ถูกวิธียอดขายดีขึ้น 100 เท่า” และเป็นผู้ก่อตั้งเพจ Digital Tips Academy นับหนึ่งถึงล้านด้วยการตลาดออนไลน์ คุณทิพย์ มัญฑิตา จินดา
- เมื่อเทรนด์เปลี่ยนไปต้องก้าวให้ทันโลก และเรียนรู้วิธีการปรับตัวด้วย กระบวนการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้กับทุกส่วนของธุรกิจ
- คำว่า On life สำคัญพอๆ กับ Online เลยทีเดียว
- การทำธุรกิจสำหรับ SME ในปี 2019 นี้ Community หรือชุมชน เป็นสิ่งสำคัญมาก
- เราไม่จำเป็นต้องใช้ทุกช่องทาง ทุกแพลตฟอร์มเพื่อทำการตลาด เพราะเวลา และทรัพยากรของเรามีจำกัด แต่ความสำคัญมันอยู่ที่ว่าลูกค้า หรือว่ากลุ่มเป้าหมายของเรา อยู่ในแพลตฟอร์มไหนมากกว่า
- Data is the new oil หรือการมีข้อมูลอาจทำให้เรามั่งคั่งเทียบเท่ากับการมีน้ำมัน
คำว่า On life สำคัญพอๆ กับ Online เลยทีเดียว
หลายคนเข้าใจผิดว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในยุคของดิจิทัล ทุกอย่างจะต้องเป็นดิจิทัล แต่ความจริงแล้วต้องเป็นแบบ On life คือการใช้ชีวิตอยู่ทั้งบนโลกออนไลน์ และออฟไลน์ไปพร้อมๆ กัน โดยทำความเข้าใจกับผู้บริโภคว่าเปลี่ยนไปอย่างไร ยกตัวอย่างเช่น ผู้สูงอายุที่ชอบใช้ไลน์ เพราะว่าสามารถใช้สติ๊กเกอร์ หรือภาพได้ ไม่ต้องพิมพ์เยอะ และอีกนัยหนึ่งที่ปัจจุบันเราเห็นกันบ่อยว่าผู้สูงอายุมีการแชร์ข้อความส่งต่อๆ กันมา เพราะเขาเห็นว่า Sharing is caring หรือเป็นการแสดงความห่วงใยนั่นเอง แสดงให้เห็นว่าต้องทำความเข้าใจถ้าหากจะเข้าไปทำการตลาดกับผู้บริโภคกลุ่มนี้
การทำธุรกิจสำหรับ SME ในปี 2019 นี้ Community หรือชุมชนเป็นสิ่งสำคัญมาก
การสร้างชุมชนขึ้นมา เป็นการตลาดที่ตรงกลุ่มเป้าหมายที่สุดเพราะได้มีการแบ่งกลุ่มที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ข้อดีคือจะได้เห็นข้อมูลความสนใจของผู้บริโภค ได้ใช้พื้นที่ตรงนี้เป็นแหล่งทำประโยชน์ และให้ความรู้แก่ผู้บริโภค ในยุคนี้ถ้าสามารถรู้ได้ว่ากลุ่มลูกค้าเป็นใคร และสื่อสารในคอนเทนต์ได้ถูกใจ ในเวลาที่ถูกต้อง จะทำให้ได้ผลลัพท์ที่ดียิ่งขึ้น เพราะ“การกำหนดเป้าหมายที่ลึก และชัดเจนจะช่วยเพิ่มโอกาสแห่งความสำเร็จ”
โซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มไหนกำลังมาแรง และจะทำเงินบนแพลตฟอร์มนั้นได้อย่างไร
เริ่มต้นที่ Twitter สำหรับคนรุ่นใหม่ ตอนนี้มาแรงเป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องแสดงตัวตน และสามารถเป็นตัวของตัวเองได้มาก ประกอบกับการที่ผู้ปกครองเข้ามามีบทบาทใช้งาน Facebook มากขึ้นจึงเริ่มหันมาใช้งาน Twitter แทน นอกจากวัยรุ่นแล้วก็ยังมีกลุ่มของผู้ที่ต้องการรับข่าวสารเกี่ยวกับ หุ้น อสังหาริมทรัพย์ หรือข่าวเศรษฐกิจ อีกด้วย โดยสังเกตได้จากบริษัทอสังหาริมทรัพย์ใหญ่ๆ ที่หันมาลงทุนทำการตลาดใน Twitter มากขึ้น
อีกแพลตฟอร์มที่ฮอตฮิตมายาวนานอย่าง Facebook หากต้องการจะทำเงินก็ต้องปรับเปลี่ยนวิธีการโดย Discovery Mindset หรือการสำรวจความคิด ความสนใจของผู้บริโภค และนำคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ น่าสนใจไปเผยแพร่ เพื่อตอบโจทย์ให้ตรงจุด เป็นพฤติกรรมธรรมชาติของผู้ใช้งาน ที่นักการตลาดจะต้องปรับตัวตามให้ไว เพราะว่า “เนื้อหาที่โดดเด่น เป็นประโยชน์จะดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมายได้”
สุดท้ายคือ IG หรือ Instagram เป็นแพลตฟอร์มที่ผู้ใช้เข้าไปใช้เพื่อผ่อนคลาย รับข่าวสารประเภทรูปภาพ รูปภาพดารา หรือไลฟ์สไตล์ แต่ที่ใหม่ไปกว่านั้นคือ IG Story ที่ให้ความบันเทิงกับผู้ใช้แบบเพลินๆ ปัจจุบันกลายมาเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ใหม่ ที่นักการตลาดเริ่มมาใช้เพื่อทำการตลาดกันเป็นจำนวนมาก ที่สำคัญค่าใช้จ่ายยังไม่สูงมากอีกด้วย
Data is the new oil หรือการมีข้อมูลอาจทำให้เรามั่งคั่งเทียบเท่ากับการมีน้ำมัน
ความหมายที่เปลี่ยนไปของ Digital Transformation หรือกระบวนการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้กับทุกส่วนของธุรกิจ ในปี 2019 เกิดจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป หัวใจที่สำคัญคือการปรับเปลี่ยนให้ทันการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค เพราะฉะนั้นการมี Big Data จึงทำให้ธุรกิจมั่งคั่งเทียบเท่ากับการมีน้ำมันได้อย่างทีได้กล่าวไว้ในตอนต้น
Big data หรือว่าข้อมูลขนาดใหญ่ของธุรกิจ ปัจจุบันการเก็บข้อมูลของผู้บริโภคมีความสำคัญ และเป็นประโยชน์ต่อการทำธุรกิจเป็นอย่างมาก ช่วยให้มีการวางแผนการทำงานที่ถูก ซึ่งข้อมูลที่ต้องเก็บเช่น ชื่อ เบอร์โทร หรือว่าอีเมลล์ และข้อมูลประเภทอื่นๆ เช่นปริมาณในการซื้อ เป็นต้น ข้อมูลพวกนี้มีผลต่อการทำการตลาดในอนาคตอย่างแน่นอน
อันดับแรกที่ต้องให้ความสำคัญคือการเก็บข้อมูลพฤติกรรมของลูกค้า จากนั้นก็เริ่มบันทึกซึ่งก็ทำได้ไม่ยากเลย เพียงแค่ใช้โปรแกรมง่ายๆ อย่าง Excel ก็ย่อมได้ และสุดท้ายคือการนำข้อมูลมาประมวลผล หลักในการประมวลผลข้อมูล คือการพยายามหาข้อมูลที่เกิดจากพฤติกรรมซ้ำๆ ของผู้บริโภค และแปลงตัวเลขให้เป็นความหมาย หรือว่าการหาเหตุผลของพฤติกรรมนั้นๆ จากนั้นจึงนำมาออกแบบแผนการตลาดต่อไป แค่นี้ก็สามารถรับมือกับเทรนด์โลกที่เปลี่ยนไปได้แล้ว
สรุปอาวุธธุรกิจที่คุณทิพย์นำมาติดให้กับ SMEs อย่างแรกนั่นก็คือ อย่าลืมว่า Online และOffline ได้เปลี่ยนไปเป็น On life แล้ว การสร้าง Community ขึ้นมา การเข้าไปมีส่วนร่วมใน Community นั้นๆ และการทำธุรกิจกับ Community ของเราเป็นการตลาดที่ตรงกลุ่มเป้าหมายที่สุด และอาวุธสุดท้ายคือการมี Big Data หรือว่าข้อมูลขนาดใหญ่ของธุรกิจ ซึ่งจะช่วยให้การวางแผนการตลาดเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง
ปิดท้ายด้วยคำพูดน่ารักๆ จากคุณทิพย์ว่า “ปีหมู ก็อยากจะให้ทุกเรื่องเป็นเรื่องหมูๆ สำหรับเรานะคะ” การทำดิจิทัลมีข้อดีคือสามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอด ถ้าเราศึกษา และปรับเปลี่ยนตัวเองให้ทันความเปลี่ยนแปลง เชื่อว่าความสำเร็จไม่ไกลเกินไปแน่นอน และถ้าทำได้ รับรองว่าได้เป็นอายุน้อยร้อยล้านคนถัดไปแน่นอน