หากคุณอยากเป็น Digital Nomad นี่คือ 11 ความถนัดที่เหมาะกับอาชีพนี้

1798

เพราะใคร ๆ ก็อยากมีอิสระในการทำงาน สามารถเลือกเวลาและสถานที่ทำงานตามต้องการได้ ไปพร้อม ๆ กับการใช้ชีวิต ออกไปเที่ยว และใช้เวลาอยู่กับครอบครัว ด้วยเหตุนี้ “Digital Nomad” หรือที่เรียกว่า “คนเร่ร่อนดิจิทัล” จึงกลายเป็นอาชีพในฝันของหลายคน เนื่องจากมองว่าคนที่ทำอาชีพนี้ คือ คนที่มีความสุขที่สุด และคิดบวกที่สุด เพราะได้ใช้ชีวิตตามความฝัน แต่ถึงอย่างไรการเป็น Digital Nomad ก็ไม่ได้เหมาะกับทุกคนในทุกสายงาน หากคุณอยากเป็น Digital Nomad นี่คือ 11 ความถนัดและงานที่เหมาะกับอาชีพนี้ที่สุด

1. นักเขียนฟรีแลนซ์

การเป็นนักเขียนฟรีแลนซ์ถือเป็นงานที่เป็รตัวเลือกที่ดีสำหรับการเป็น Digital Nomad หากคุณเป็นนักเขียนที่ดี ชอบการใช้ความคิดสร้างสรรค์ ชอบการค้นคว้า และการเขียน โดยโอกาสของนักเขียนอิสระนั้นมีหลากหลายช่องทางไม่ว่าจะหางานบนเว็บไซต์หรือแอปฯ เกี่ยวกับงานเขียนฟรีแลนซ์ หรือคุณยังสามารถติดต่อบริษัท บล็อกเกอร์ เว็บไซต์ที่คุณสนใจอยากร่วมงาน และดูว่าพวกเขาต้องการจ้างนักเขียนฟรีแลนซ์หรือไม่

2. การทำบล็อก หรือเป็นบล็อกเกอร์

นอกจากการเป็นนักเขียนฟรีแลนซ์ สำหรับคนที่รักในการเขียน การทำบล็อกก็ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่จะช่วยให้คุณสร้างแบรนด์และตัวตนของตัวเองได้อย่างแท้จริง แม้ว่าอาจจะเป็นเรื่องยากในช่วงเริ่มต้น และอาจจะไม่ได้ทำเงินให้คุณในทันที แต่คุ้มค่าในระยะยาว โดยการทำบล็อก คือ การที่คุณสามารถเขียน และพูดในสิ่งที่ตัวเองรัก สามารถเลือกประเภทของบล็อกที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ และความสนใจของตัวเอง

ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณรักในอาหาร ก็ทำบล็อก เขียนรีวิว หรือแม้แต่ทำอาหาร และแชร์สูตรอาหารลงบนบล็อกของตัวเองได้ หรือถ้าคุณชอบในการแต่งหน้า ก็อาจจะทำบล็อกเกี่ยวกับวิธีแต่งหน้า การเลือกเครื่องสำอางต่าง ๆ หรือถ้าคุณชอบการท่องเที่ยว ก็ยังสามารถเขียนเกี่ยวกับการเดินทาง รีวิวสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่คุณไปมาได้ ซึ่งสิ่งนี้นอกจากคุณจะได้ทำในสิ่งที่ชอบแล้ว หากคุณมีผู้ติดตามจำนวนเยอะขึ้น มีคนชื่นชอบในผลงานและสไตล์ของคุณ ก็มีโอกาสที่เขาจะมาเป็นลูกค้า จ้างคุณเขียนบล็อก เขียนรีวิว แนะนำสินค้าหรือบริการของพวกเขา

3. สอนภาษาอังกฤษหรือภาษาอื่น ๆ ออนไลน์

ถ้าคุณเป็นคนที่เก่งภาษาอังกฤษ สนุกกับการสอน แล้วยังชอบช่วยเหลือผู้อื่น การสอนภาษาอังกฤษหรือภาษาต่างประเทศอื่น ๆ ออนไลน์อาจเป็นหนึ่งในงานที่ดีที่สุดสำหรับการเป็น Digital Nomad ซึ่งคุณยังสามารถจัดตารางเวลาของคุณเองได้ และสามารถเลือกวิธีการสอนได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น สอนผ่านวิดีโอคอลแบบตัวต่อตัวตามเวลาที่คุณตกลงกับนักเรียนไว้, ขายเป็นคอร์สสอนออนไลน์ผ่านเว็บไซต์หรือกลุ่มของคุณเอง หรืออาจจะทำวิดีโอเผยแพร่ทางช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ เช่น Youtube, Facebook และ TikTok

4. ผู้ดูแล/แอดมินโซเชียลมีเดีย

ในขณะที่โลกออนไลน์เติบโตอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจต่าง ๆ เริ่มเห็นความสำคัญของการลงทุนในโซเชียลมีเดีย และมีการเพิ่มตำแหน่งผู้ดูแลหรือแอดมินโซเชียลมีเดียขึ้นมาด้วย หากคุณรักในการใช้โซเชียลมีเดีย มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับโซเชียลมีเดีย รวมถึงเป็นคนที่คอยอัปเดตข่าวสาร ความรู้ใหม่ ๆ เสมอ นี่คืองานที่เหมาะกับการเป็น Digital Nomad เนื่องจากงานนี้เป็นการทำงานผ่านออนไลน์
โดยการทำงานก็จะทำตั้งแต่สร้างโพสต์ ตั้วเวลาโพสต์ แชร์ กดไลก์ แสดงความคิดเห็น ยิงแอด วางกลยุทธ์ทางโซเชียลฯ และวิเคราะห์แบรนด์ หรือก็คือมีหน้าที่ดูแลหลังบ้านบนโซเชียลมีเดียของแบรนด์นั้น ๆ นอกจากจะทำงานจากที่ไหนก็ได้ที่มีอินเทอร์เน็ต คุณยังสามารถทำได้ทั้งเป็นงานประจำ รวมถึงรับฟรีแลนซ์ในกี่บริษัทก็ได้

5. ผู้ช่วยเสมือน

หากคุณเป็นคนมีระเบียบ ชอบจัดการดูแล และกำลังมองหางานออนไลน์ การเป็นผู้ช่วยเสมือน (Virtual Assistant) อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะ เนื่องจากเป็นงานสามารถทำงานนอกสถานที่ได้ ไม่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิศ สำหรับหน้าที่ก็คือ จะเป็นการให้บริการงานธุรการทั่วไป และช่วยดูแลธุรกิจของแบรนด์นั้น ๆ ตั้งแต่ กำหนดการนัดหมาย อัปเดตปฏิทิน ช่วยเหลือเกี่ยวกับโซเชียลมีเดีย ฯลฯ ซึ่งแต่ละคนก็จะมีหน้าที่และเนื้องานแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับว่าทำงานให้ใคร และเป็นธุรกิจเกี่ยวกับอะไร โดยงานนี้นอกจากคุณจะสามารถทำงานกับบริษัทมากกว่าหนึ่งแห่งแล้ว คุณยังได้ประสบการณ์อีกมากมาย

6. โปรแกรมเมอร์

โปรแกรมเมอร์ คืองานที่จะต้องทำบนคอมพิวเตอร์ 100% ไม่ว่าจะเขียนโค้ด พัฒนาเว็บไซต์ วางโครงสร้างระบบคอมพิวเตอร์ ไปจนถึงตรวจสอบความผิดพลาดและความปลอดภัย ซึ่งถ้าคุณมีทักษะในด้านนี้ การจะผันตัวมาเป็น Digital Nomad ก็ไม่ใช่เรื่องยาก แถมโอกาสในการเติบโตในสายงานนี้ยังสูงมาก เนื่องจากปัจจุบันทุกธุรกิจต้องการโปรแกรมเมอร์เพื่อเข้าไปช่วยดูแลเว็บไซต์ และแอปฯ ต่าง ๆ ของธุรกิจ ที่สำคัญคุณยังสามารถใช้คอมฯ ตามสเปกที่ต้องการ ไม่ใช่คอมฯ ออฟฟิศที่มีการกำหนดสเปกมาอย่างจำกัด รวมถึงยังสามารถวางแผนการทำงานได้อย่างอิสระด้วยตัวเอง

7. นักตัดต่อวิดีโอ

หากคุณชื่นชอบการถ่ายวิดีโอ มีความคิดสร้างสรรค์ และมีความสามารถในการใช้โปรแกรมตัดต่อ การเป็นนักตัดต่อวิดีโอ ก็เป็นหนึ่งในงานที่เหมาะกับการเป็น Digital Nomad เนื่องจากงานนี้เป็นงานที่ต้องทำในคอมฯ และสามารถทำได้จากทุกที่ ไม่จำเป็นต้องออฟฟิศหรือที่บ้าน แต่จำเป็นต้องเป็นพื้นที่ที่มีความสงบ เนื่องจากต้องใช้สมาธิ ดังนั้น การที่คุณสามารถเลือกสถานที่ในการทำงานได้ก็เป็นเรื่องที่ดี เป็นงานที่มีโอกาสทำเงินได้อย่างดี แถมยังเป็นงานที่สนุก และท้าทายความสามารถ เพราะคุณจะได้ทำงานใหม่ ๆ อยู่เสมอ ตามความต้องการของคนจ้าง ซึ่งอาจจะมาในรูปแบบของบริษัทใหญ่ แบรนด์ดัง ไปจนถึงยูทูบเบอร์

8. การเปิดร้านค้าออนไลน์

หากคุณต้องการสร้างแบรนด์เป็นของตัวเอง การเริ่มต้นเปิดร้านออนไลน์ ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี เนื่องจากนี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างธุรกิจในระยะยาวของคุณ ตัวอย่างเช่น หากคุณรักในแฟชั่น คุณก็สามารถทำแบรนด์เสื้อผ้าหรือเครื่องประดับ นอกจากนี้ หากคุณอยากเปิดร้านขายสินค้าแต่ไม่ได้อยากทำแบรนด์ของตัวเอง คุณก็สามารถขายสินค้าแบบ Dropship หรือก็คือ นำสินค้าของแบรนด์อื่นมาขาย คุณแค่ทำการตลาด โปรโมตสินค้าในร้าน โดยที่จะไม่สต็อกสินค้า เมื่อมีลูกค้าสั่งซื้อสินค้าเข้ามา บริษัทเจ้าของแบรนด์จะเป็นผู้ส่งของให้ลูกค้า ซึ่งรูปแบบนี้ก็จะทำให้คุณสามารถทำงานได้จากทุกที่ แถมยังไม่ต้องเปิดร้าน สร้างแบรนด์เองด้วย

9. โค้ชออนไลน์

หากคุณชอบช่วยเหลือผู้อื่น และคุณมีความเชี่ยวชาญหรือทักษะที่สามารถแบ่งปันผู้อื่นได้ อีกทั้งคุณกำลังคิดอยากเป็น Digital Nomad การเป็น “โค้ชออนไลน์” ก็ถือเป็นหนึ่งในงานที่น่าสนใจ เนื่องจากขอบเขตของงานนั้นมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งการเป็นโค้ชฝึกอบรมส่วนตัว ไปจนถึงการเป็นไลฟ์โค้ช แต่ความยากของงานนี้ก็คือ ต้องมีความรู้ความเข้าใจ มีความเป็นมืออาชีพ และน่าเชื่อถือจริง ๆ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งในการสร้างความสามารถพิเศษที่แตกต่างจากคนอื่น รวมไปถึงการสร้างความน่าเชื่อถือ แต่ข้อดีก็คือ คุณสามารถเริ่มต้นได้จากสิ่งที่ตัวเองถนัด สามารถวางแผนการทำงานของตัวเองได้อย่างอิสระ ในขณะเดียวกันก็สามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้จากระยะไกล ไม่จำเป็นต้องเจอกัน

10. อินฟลูเอนเซอร์ หรือ ผู้มีอิทธิพลทางสื่อโซเชียลมีเดีย

สำหรับอินฟลูเอนเซอร์หรือผู้มีอิทธิพลทางสื่อโซเชียลมีเดีย งานนี้ถือว่ามาแรงและมีความน่าสนใจอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บุคคลเหล่านี้คือผู้ที่มีผู้ติดตามที่ภักดีบนโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ซึ่งจะได้รับค่าจ้างเพื่อโปรโมตผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ต่าง ๆ งานนี้ถือว่าตอบโจทย์กับคนที่อยากเป็น Digital Nomad เนื่องจากเป็นการทำผ่านช่องทางออนไลน์ ไปเที่ยวก็สามารถนำสินค้าที่ทางแบรนด์ให้มา ไปถ่ายรูป ทำคอนเทนต์วิดีโอรีวิวสินค้าให้มีฉากหลังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหรือวิวสวย ๆ เรียกว่าได้ทั้งเที่ยวและได้เงินด้วย

แต่ความยากของงานนี้คืออาจต้องใช้เวลาในการสร้างเครือข่ายบนโซเชียลมีเดียให้ผู้คนสนใจและอยากติดตาม แล้วเมื่อคุณได้รับแรงผลักดันและแรงสนับสนุนจากเหล่าผู้ติดตามแล้ว คุณก็จะเติบโตบนสายงานนี้อย่างรวดเร็ว

11. นักออกแบบกราฟิก

หากคุณมีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะในการออกแบบงานกราฟิก วาดรูปได้ดี และการเลือกใช้สีที่ดี การเป็นนักออกแบบกราฟิกก็ถือเป็นงานที่ดีที่สุดของคุณในฐานะเป็น Digital Nomad เนื่องจากนักออกแบบกราฟิกคืองานที่ต้องทำบนคอมฯ เป็นหลัก ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน แต่ถ้ามีคอมฯ คุณก็ยังสามารถทำงานได้ และที่สำคัญคือนี่เป็นหนึ่งในงานที่ทุกบริษัทต้องการ ไม่ว่าจะออกแบบโลโก้ ทำกราฟิกสำหรับโพสต์บนโซเชียลมีเดีย ออกแบบดีไซน์ของเว็บไซต์ ใบปลิว โปสเตอร์ ฯลฯ ซึ่งสามารถทำได้ทั้งเป็นงานประจำให้องค์กรเดียว หรืออาจจะเป็นฟรีแลนซ์ รับเป็นรายชิ้นงานให้หลายองค์กรพร้อม ๆ กัน

อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้คือ 11 ความถนัดหรืองานที่เหมาะกับอาชีพการเป็น Digital Nomad มากที่สุด ซึ่งจะเห็นว่าอาชีพนี้เปิดโอกาสให้กับความถนัดที่หลากหลายรูปแบบ แต่ที่ทุกงานเหมือนกันก็คือ ต้องเป็นงานที่สามารถทำผ่าน “ออนไลน์” ได้ ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะมีความถนัดหรือทักษะอะไร แต่หากคุณต้องการเป็น Digital Nomad หรือ คนเร่ร่อนดิจิทัล คุณต้องมั่นใจก่อนว่าที่ที่คุณอยู่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตหรือไม่ และที่สำคัญคือ คุณต้องมีความรับผิดชอบและมีวินัยในตัวเอง เพราะถึงแม้อาชีพนี้จะทำให้คุณมีอิสระ มีเวลาได้ใช้ชีวิต แถมยังได้เที่ยวไปด้วย แต่ขณะเดียวกันคุณก็ต้องไม่เสียงาน งานของคุณต้องมีประสิทธิภาพด้วยเช่นกัน

ที่มา : https://www.peterpantraveler.com/best-digital-nomad-jobs/