เมื่อออนไลน์กลายเป็นช่องทางทำธุรกิจที่สำคัญของทุกธุรกิจ แต่เพราะการจะทำธุรกิจออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จไม่ใช่แค่เลือกแพลตฟอร์ม ลงคอนเทนต์ โพสต์สินค้า ในทางกลับกัน มันมีเรื่องที่ยากกว่านั้น ดังนั้น ก่อนจะเริ่มทำธุรกิจบนออนไลน์ ไม่ว่าจะธุรกิจอะไรก็ตาม ควรเตรียมตัวให้พร้อม และต้องรู้บางสิ่งที่ควรรู้ก่อน อย่าง 13 สิ่งต่อไปนี้
1. คุณจะเกิดความกลัวทางใจ
เพราะการทำธุรกิจออนไลน์ จะมีปัญหาอย่างหนึ่ง คือ คนชอบเล่าเรื่องธุรกิจแบบปลอม ๆ เพราะมันช่วยสร้างความสนใจและยอดขายให้พวกเขาได้ ซึ่งเมื่อคุณอ่านหรือดูมัน แล้วคุณไม่สามารถทำตามที่คน ๆ นั้นบอกได้ และคุณไม่ได้มีจิตใจที่เข้มแข็งมากพอ แทนที่จะเป็นแรงบันดาลใจ กลายเป็นสร้างความเครียดหรือความกลัวให้คุณหรือคนที่ยังไม่ได้ก้าวเข้าไป
จริง ๆ แล้ว การทำธุรกิจออนไลน์ มีช่วงเวลาของมัน คุณแค่ต้องใช้เวลาเหมือนกับธุรกิจอื่น ๆ ไม่ใช่ว่าทำปุ๊บแล้วจะดีเลย คุณแค่ต้องให้เวลาในการทำ ทดลอง ศึกษา เรียนรู้ ซึ่งนี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมคุณจึงรู้สึกดีในภายหลังหากคุณทำสำเร็จ
2. ปีแรก “ยาก” เสมอ!
หลายคนมักเข้าใจว่า การทำธุรกิจบนออนไลน์ง่าย และจะทำตอนไหนเมื่อไรก็ได้ ซึ่งนั่นเป็นเรื่องจริง แต่ที่ไม่มีใครเคยบอกคุณก็คือ มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น แต่มัน “ยาก” มาก โดยเฉพาะในช่วง “ปีแรก” เพราะปีแรกเป็นช่วงของการเริ่มต้น และจัดการกับสิ่งต่าง ๆ จนกว่าธุรกิจจะลงตัว ซึ่งคุณอาจต้องทำงานอย่างหนักคนเดียวและทำงานแบบไม่เป็นเวลา จากเคยทำงานประจำให้คนอื่นวันละ 8 ชั่วโมง แต่เมื่อคุณออกมาทำธุรกิจของตัวเองอาจต้องทำงานถึง 16 ชั่วโมงต่อวันก็ได้
3. คุณต้องหาพนักงานส่วนอื่น ๆ ด้วยไม่ใช่แค่พนักงานขาย
แม้ในช่วงแรกคุณจะทำคนเดียวได้ แต่คุณก็จำเป็นต้องมีพนักงานส่วนอื่น ๆ เช่น ทนายความ นักพัฒนาเว็บไซต์ นักบัญชี เลขา ฯลฯ เพราะเมื่อคุณต้องหาซัพพลายเออร์มาร่วมลงทุนในธุรกิจด้วย ถ้าคุณดูไม่มีความรู้ หรือไม่มีทีมงานี่ครบวงจร คุณก็จะดูไม่มีความน่าเชื่อถือ แต่ถ้าคุณมีพนักงานส่วนอื่น ๆ มาช่วยซัปพอร์ต ช่วยคุณทำงานในส่วนที่พวกเขาเชี่ยวชาญกว่าคุณก็จะทำให้เหล่าซัพพลายเออร์มั่นใจและกล้าลงทุนกับธุรกิจของคุณมากยิ่งขึ้น
4. ขนาดของอินเทอร์เน็ตใหญ่กว่าที่คิด
ในตอนแรกคุณอาจรู้สึกว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะทำเงินบนอินเทอร์เน็ตได้อย่างง่ายดาย จนกระทั่งคุณได้เห็นตัวอย่างของคนที่ทำธุรกิจบนออนไลน์แล้วประสบความสำเร็จ รวมถึงคุณได้ทำมันแล้ว คุณถึงจะรู้ว่าขนาดของมันใหญ่และสร้างโอกาสได้มากกว่าที่คิด แต่ในขณะเดียวกัน หากคุณต้องการทำเงินบนอินเทอร์เน็ตได้ สิ่งที่ต้องทำคือ ความหลงใหลในบางสิ่ง และคุณต้องทำมันอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงให้เวลากับมันอย่างน้อย 1 ปีขึ้นไป
5. ปัญหาอันดับ 1 ที่ต้องเผชิญ คือ หลายคนล้มเหลวเพราะมัน
แม้จะมีคนมากมายที่ประสบความสำเร็จจาการทำธุรกิจบนออนไลน์ แต่หากคุณเข้าสู่วงการนี้จริง ๆ จะรู้ว่า ก็ยังมีคนอีกมากที่พยายามเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์และล้มเหลว นั่นเป็นเพราะพวกเขาอาจไม่ได้นำเสนอสิ่งที่ผู้คนต้องการจริง ๆ
ไม่ว่าคุณจะพยายามมากแค่ไหน คุณก็จะถูกผลักให้ขึ้นเนินนั้นเสมอ เว้นแต่ว่าคุณจะใช้เวลาในการค้นหาและรู้อย่างแท้จริงว่า พวกเขาต้องการอะไร ซึ่งสิ่งที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณอยู่ในใจพวกเขาได้มีสองทางคือ แก้ปัญหาให้พวกเขาหรือช่วยให้พวกเขาบรรลุเป้าหมาย เพราะทั้งสองทางนี้จะเชื่อมโยงกับความต้องการอย่างใดอย่างหนึ่งของพวกเขา เช่น ฉันต้องการเวลามากกว่านี้, ฉันต้องการเงินเพิ่ม, ฉันต้องการปรับปรุงสุขภาพของฉัน หรือ ฉันต้องการสัมผัสกับความสุขและความสบายที่มากขึ้น
6. ถามผู้ที่มีแนวโน้มสนใจธุรกิจของคุณ แทนการถามผู้เชี่ยวชาญ
ผู้เชี่ยวชาญไม่ได้หมายความว่าจะรู้ทุกอย่าง และตอบคำถามคุณได้ทุกข้อ อย่าเสียเวลาไปกับการขอคำแนะนำขอความช่วยเหลือ หรือวิธีเริ่มต้นจากแค่กูรูผู้เชี่ยวชาญอย่างเดียว เพราะอย่างที่กล่าวไว้ในข้อ 5 ว่า สิ่งสำคัญคือ คุณต้องรู้ว่าลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของคุณต้องการอะไร ดังนั้น แทนที่จะถามกูรู คุณควรถามกับคนที่มีแนวโน้มสนใจสิ่งที่คุณจะขาย อาจจะเป็นการโทรคุย ทำแบบสอบถาม ส่งอีเมล หรือแม้แต่การลงพื้นที่สำรวจ เพราะพวกเขาคือคนที่จะใช้สินค้าหรือบริการของคุณ พวกเขาคือคนที่รู้ดีที่สุดว่าพวกเขาต้องการอะไรจากสินค้าของคุณ
7. คุณสามารถตั้งกฎในการทำงานของตัวเองได้
ธุรกิจออนไลน์เป็นธุรกิจที่ให้คุณสามารถตั้งกฎในการทำงานของตัวเองบนแพลตฟอร์มออนไลน์ของคุณได้ ตัวอย่างเช่น เวลาในการทำงาน วางแผนการทำงานของธุรกิจ วางแผนกลยุทธ์ที่จะทำให้ลูกค้าเลือกและรักธุรกิจของคุณ รวมไปถึงคุณจะทำยังไงให้ลูกค้ายังอยากเห็นคุณ และคอยสนับสนุนคุณเสมอ
เปรียบเสมือนกับว่าคุณเป็นประธานาธิบดีของประเทศเล็ก ๆ คุณจะต้องวางแผนการทำงานของรัฐ, ทำยังไงให้ประชาชนเลือกคุณ และทำยังไงให้ในครั้งต่อไปพวกเขายังรักและสนับสนุนต่อไป
8. จงนำความเชื่ออันทรงพลังนี้มาใช้ อย่าแค่คิดวางแผน แต่ต้องลงมือทำด้วย
หากคุณแค่พยายามวางแผน คุณจะไม่มีวันได้เริ่ม ความเชื่อหนึ่งที่คุณต้องยอมรับคือ คุณจะคิดออกว่าต้องทำอย่างไรก็ต่อเมื่อคุณเดินหน้าไปแล้ว ยิ่งคุณมีประสบการณ์ทำธุรกิจออนไลน์มานานเท่าไร คุณก็จะยิ่งได้เรียนรู้มากขึ้นเท่านั้น ไม่ว่าจะความล้มเหลว หรือความสำเร็จ สิ่งเหล่านี้สอนคุณได้มากกว่าแค่การอ่านแต่บทเรียนในหนังสือ
9. เลือกที่จะสร้างคุณค่า มากกว่าเอาแต่จะสร้างรายได้
การสร้างคุณค่าจะทำให้ธุรกิจอยู่ได้นานขึ้น แต่การสร้างแต่รายได้ จะทำให้ธุรกิจอยู่ได้ไม่นาน และในขณะเดียวกันก็จะมีธุรกิจอื่นมาแทนที่คุณอยู่ตลอด เพราะนั่นเป็นสิ่งที่พวกเขาก็ทำได้เช่นเดียวกัน ดังนั้น คุณต้องเลือกทำในสิ่งที่สร้างคุณค่า เป็นสิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้ เช่น ธุรกิจคอร์สออนไลน์ แม้จะเป็นธุรกิจที่ใคร ๆ ก็ทำได้ในยุคนี้ แต่หากคุณนำเสนอคอร์สจากประสบการณ์ที่คุณฝึกฝนมานานหลายปี หรือไม่ก็เจอวิธีแก้ปัญหาที่ไม่สามารถค้นหาจาก Google หรือคนอื่นง่าย ๆ ไม่เช่นนั้น คอร์สของคุณก็ไม่ได้มีอะไรดีไปกว่าหน้าคำถามที่พบบ่อยบนเว็บไซต์ของคนอื่น
10. หยุดพยายามเป็น “ผู้เชี่ยวชาญ”
ลูกค้าที่ดีที่สุดของธุรกิจออนไลน์ของคุณ ส่วนใหญ่พวกเขามักตามหลังคุณอยู่เพียงสองก้าวเท่านั้น ด้วยวิธีนี้คุณสามารถช่วยพวกเขาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ คุณไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญ ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์การทำงานเป็นสิบปี แค่คุณมีประสบการณ์ในแบบที่พวกเขาต้องการ ผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณสามารถตอบโจทย์ความต้องการและช่วยเหลือพวกเขาได้ นี่ก็ถือเป็นความสำเร็จอย่างหนึ่งของการทำธุรกิจออนไลน์แล้ว
11. คุณอาจไม่มั่นใจในช่วงแรกของการจ้างเอาท์ซอร์ซ
ถ้าสิ่งที่คุณทำคือ สร้างธุรกิจออนไลน์และทำเพียงคนเดียว ไม่เคยจ้างใครเลย สิ่งที่คุณสร้างมาคือ งานที่น่ายกย่อง จุดประสงค์ของการทำธุรกิจออนไลน์ของคนส่วนใหญ่ คือ การเรียกคืนชีวิตและเป็นเจ้าของเวลาของตัวเอง รวมถึงมีรายได้แบบพาสซีฟในระดับหนึ่ง ดังนั้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ คุณต้องไม่ทำเพียงคนเดียว แต่คุณต้องมีระบบอัตโนมัติของซอฟแวร์ที่ช่วยคุณในการจัดการระบบหลังบ้าน, ผู้ช่วยเสมือนจริง หรือแม้แต่การจ้างเอาท์ซอร์ซ แม้จะดูง่าย แต่นี่ถือเป็นส่วนที่ยากที่สุดของธุรกิจออนไลน์
หากคุณเป็นคนที่ทำงานคนเดียวมาโดยตลอด ในตอนแรกคุณอาจรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังจะตายอย่างช้า ๆ เพราะคุณไม่มั่นใจว่าคนที่คุณจ้างจะทำได้อย่างที่เขาพูดหรือเปล่า พวกเขาจะช่วยคุณได้จริง หรือยิ่งทำให้ธุรกิจแย่ลง แต่เมื่อผ่านไปได้ครึ่งทางแล้ว มันจะเริ่มรู้สึกเหมือนเป็นอิสระมากขึ้น ดังนั้น คุณต้องไว้วางใจคนอื่น และมอบการเข้าถึงบัญชีออนไลน์ของคุณให้พวกเขาช่วยดูแล
12. การขายออนไลน์ไม่ใช่เส้นทางสู่อิสรภาพทางการเงินอย่างที่ฝันเสมอไป
เพราะการขายออนไลน์มีช่วงเวลาของมัน แต่คนขายออนไลน์ส่วนใหญ่มักไม่ค่อยวางแผนระยะยาว แต่มักวางแผนแค่ระยะสั้น ถ้าคุณอยากให้การขายออนไลน์ของคุณสร้างเส้นทางอิสรภาพทางการเงินให้กับคุณ คุณต้องเลือกสินค้าที่จะขายให้ถูก โดยในที่นี้เราจะแบ่งสินค้าออกเป็น 2 ประเภทได้แก่
- สินค้าที่กำไรน้อย แต่ขายได้ตลอด ยิ่งขายยิ่งมีคนซื้อได้ตลอดทั้งปี
- สินค้าที่กำไรเยอะ แต่ลูกค้าซื้อแค่ครั้งเดียว ใช้ได้ตลอดไป หรืออาจจะใช้เป็นเวลานานกว่าจะกลับมาซื้ออีกครั้ง
ดังนั้น ก่อนจะมองหาอิสรภาพทางการเงิน คุณต้องดูด้วยว่าสิ่งที่คุณขายคืออะไร คุณเลือกถูกแล้วหรือไม่ คุณสามารถทำเงินจากมันได้แบบไหน ทำเงินให้คุณได้เรื่อย ๆ หรือครั้งเดียวจบ
13. ผู้คนไม่ซื้อสินค้า พวกเขาซื้อความรู้สึก
สิ่งที่สำคัญกว่าสินค้าดียังไง ก็คือ สินค้าหรือบริการของคุณทำให้คนรู้สึกอย่างไร ความรู้สึกที่ดีที่สุดที่คุณสามารถมอบให้ผู้อื่นได้คืออะไร ถ้าสินค้าของคุณสามารถทำให้พวกเขารู้สึกดี รู้สึกมีแรงบันดาลใจได้ พวกเขาก็จะทำทุกอย่างเพื่อธุรกิจของคุณ เพราะคนส่วนใหญ่มักยอมเสียเงินเพื่อซื้อสิ่งที่ทำให้พวกเขารู้สึกดีมากกว่า
ซึ่งไม่ว่าสินค้าจะเป็นอะไร แต่ตอนที่ขายคุณต้องทำให้พวกเขารู้สึกโชคดีที่ได้มันมา เช่น ดื่มน้ำดื่มของคุณแล้วจะได้วิตามินที่ช่วยให้หน้าใส, ใช้กระทะของคุณแล้วคุณแม่บ้านจะสบายขึ้นไม่ต้องเสียแรงขัด เพราะมีคุณสมบัติไม่ติดกระทะ แค่เช็ดด้วยทิชชู่ก็สะอาดหมดจด
ที่มา :