ใคร ๆ ก็อยากรวย! ยิ่งเห็นคนนี้มีบ้าน คนนั้นมีรถ คนนู้นร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐี ก็อยากรวยเหมือนเขาบ้าง อยากมีเงิน อยากซื้อของ อยากอยู่แบบสุขสบายเหมือนคนอื่น แต่กลับไม่รวยเหมือนเขาสักที มันเพราะอะไรกันนะ? “15 เหตุผล” ต่อไปนี้ คือ สาเหตุที่ทำให้คุณไม่รวย และจะ “ไม่มีวันรวย” ถ้าคุณยังเป็นแบบนั้น!
1. คุณไม่สามารถควบคุม “อีโก้” ของตัวเองได้
คำพูดยอดฮิตของ Morgan Housel ผู้เขียนหนังสือจิตวิทยาว่าด้วยเงิน “การใช้จ่ายเงินเพื่อแสดงให้คนอื่นเห็นว่าคุณมีเงินมากแค่ไหน เป็นวิธีที่เร็วที่สุดในการทำให้เงินของคุณน้อยลง”
หลายคนกำลังทำสิ่งนี้ และบางครั้งอาจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ากำลังทำอยู่ เช่น หมดเงินไปกับการซื้อเสื้อผ้า กระเป๋าแบรนด์เนม ฯลฯ แม้คุณจะมีรายได้ที่ดี หาเงินได้เยอะ แต่ถ้าคุณไม่สามารถควบคุมอีโก้หรือความต้องการของตัวเองได้ หมดเงินไปกับการซื้อของที่ไม่จำเป็นมากเท่าไร คุณก็จะเดินห่างจากความรวยมากขึ้นเท่านั้น
2. คุณพอใจกับเงินเดือนที่สม่ำเสมอ
“การเสพติดที่อันตรายที่สุด 3 อย่าง คือ เฮโรอีน คาร์โบไฮเดรต และเงินเดือน” จากการศึกษาพบว่า ผู้คนมากกว่า 70% ทั่วโลก ที่มีอายุระหว่าง 25-50 ปี หาเลี้ยงชีพด้วยเงินเดือนรายเดือน แม้จะเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไป แต่หากคุณพึ่งพอใจกับเงินเดือนเท่าเดิมไปเรื่อย ๆ โดยไม่ต้องการเงินเดือนเพิ่มขึ้นหรือแสวงหารายได้เพิ่ม รับรองว่าวันหนึ่งมันจะกลายเป็นฝันร้ายแน่นอน หากวันหนึ่งคุณมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ๆ แบบฉุกเฉิน เงินที่เคยคิดว่าพอใจ พอใช้ ก็อาจกลายเป็นสิ่งที่ “จำกัด” การใช้จ่ายในชีวิตของคุณได้เลย
3. คุณเป็นหนี้อยู่เสมอ
หากคุณไม่สามารถใช้จ่ายได้อย่างสบายใจ ไม่สามารถลงทุนกับอะไรสักอย่างได้ หรือไม่สามารถเก็บเงินไว้กับตัวได้ เนื่องจากต้องนำไปชำระหนี้ที่มีอยู่และต้องจ่ายทุก ๆ เดือน การสร้างความร่ำรวยจะเป็นเรื่องยากในทันที เพราะแทนที่จะเก็บหอมรอมริบ กลายเป็นว่าเงินจำนวนหนึ่งจะหายไปในทุก ๆ เดือน แต่ขณะเดียวกันหากหนี้นั้นเป็น “หนี้ดี” และไม่เกินตัว ก็สามารถทำให้คุณร่ำรวยได้เหมือนกันหากคุณรู้จักวางแผนการเงินให้ดี ๆ ซึ่งมันอาจต้องใช้เวลาสักนิด
4. คุณเป็น “ทาส” ของภาวะเงินเฟ้อจากไลฟ์สไตล์
เคยสังเกตหรือไม่ว่า รายจ่ายจะเพิ่มขึ้นถึงระดับรายได้ของคุณเสมอ ไม่ว่ารายได้ของคุณจะสูงขึ้นแค่ไหน ซึ่งนี่แหละคือเหตุผลสำคัญที่ทำให้คุณไม่สามารถรวยเหมือนคนอื่นได้สักที เพราะเมื่อคุณมีรายได้เพิ่มขึ้น สิ่งต่อไปที่จะเข้ามาในหัวก็คือ คุณเริ่มขยับเป้าหมายให้สูงขึ้นด้วย จากสิ่งที่เคยพึงพอใจ กลับทำให้หงุดหงิดและอยากเปลี่ยนแปลง เช่น คุณยกระดับไลฟ์สไตล์ ใช้จ่ายเพื่อความปรารถนามากขึ้น ไม่ว่าจะใช้วันหยุดไปกับการพักผ่อนในที่ที่แสนจะหรูหรา ซื้อเสื้อผ้า รองเท้าราคาแพง ซื้อรถยนต์แบรนด์หรู หรือบางคนอาจย้ายไปอยู่บ้านหลังใหญ่
เมื่อไรก็ตามที่คุณเลือกที่จะใช้จ่ายมากกว่าที่หาได้ ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่คุณจะเก็บออมได้ คุณสามารถใช้เงินเพื่อเป็นรางวัลให้กับการทำงานที่แสนหนักได้ แต่ควรวางแผนและรู้จักใช้ อย่าทำให้มันกลับมาทำร้ายชีวิตคุณ หากเงินเดือนเพิ่มขึ้น แทนที่คุณจะใช้จ่ายจนหมด ให้มองว่าเป็นโอกาสอันดีที่คุณจะเก็บเงินได้เยอะขึ้นและเพิ่มความร่ำรวย ไม่ใช่โอกาสในการอัปเกรดไลฟ์สไตล์
“อย่าออมเงินที่เหลือหลังจากใช้จ่าย แต่จงใช้ที่เหลือจากการออม” Warren Buffet กล่าว
5. คุณไม่ลงทุนในตัวเอง
“ไม่มีการลงทุนที่ให้ผลกำไรมากไปกว่าการลงทุนในตัวเอง เป็นการลงทุนที่ดีที่สุดที่คุณสามารถทำได้ และไม่มีวันผิดพลาด” Roy T. Bennett กล่าว
ผู้คนมักไม่พูดถึงเรื่องนี้มากเท่ากับการที่พวกเขาพูดถึงการลงทุนด้วยเงิน น่าแปลกที่การลงทุนในตัวเองเป็นหนทางที่นำไปสู่ความร่ำรวยที่ง่ายและมีประสิทธิภาพที่สุด แต่กลับถูกมองข้ามเสมอ การที่คุณไม่ลงทุนในตัวเอง ไม่พาตัวเองออกไปเรียนรู้ อาจทำให้คุณพลาดหลาย ๆ อย่างไปได้ ไม่ว่าจะเป็น โอกาสในการเพิ่มความรู้ คุณค่า ความมั่นใจ ศักยภาพ ไปจนถึงทักษะที่จำเป็นต่อการสร้างความร่ำรวย
6. คุณไม่ยอมออกนอกกรอบ หรือทำอะไรที่ต่างจากคนอื่น
2 วิธีที่เร็วที่สุดในการเป็นเศรษฐีในชั่วข้ามคืน คือ
1). เสนอสิ่งที่ไม่มีใครสามารถเสนอและสร้างเงินได้
2). ทำสิ่งที่ไม่มีใครเต็มใจทำและสร้างเงินได้
กล่าวก็คือ คุณต้องสร้างความแตกต่างไม่ว่าจะเป็นตัวเอง งาน หรือธุรกิจ หากคุณไม่กล้าแตกต่าง และทำเหมือน ๆ กับคนอื่น ไม่ว่ายังไงคุณก็ไม่มีทางสร้างความรวยได้ เพราะหากเป็นสิ่งที่เหมือนกับคนอื่น ไม่แตกต่าง เป็นสิ่งที่มีอยู่แล้ว นั่นก็เท่ากับว่าไม่ใช่แค่คุณ แต่ใคร ๆ ก็ทำได้เหมือนกัน โอกาสในการสร้างเงินและความร่ำรวยในเร็ววันก็จะน้อยลงเท่านั้น
7. คุณไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในสิ่งที่กำลังทำ
เหตุผลที่คนส่วนใหญ่ยังไม่ประสบความสำเร็จสักที ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพวกเขาเลือกที่จะทำในสิ่งที่คิดว่าไม่ต้องพยายามมากและน่าจะประสบความสำเร็จได้มากกว่า แต่นั่นกลับเป็นสิ่งที่คุณไม่ได้ถนัดเอาซะเลย แทนที่จะประสบความสำเร็จ หาเงินได้เยอะขึ้น ร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐี กลายเป็นว่า เมื่อล้มเหลวบ่อย ๆ คุณตัดสินตัวเองไปแล้วว่า ไม่เก่ง และไม่มีวันรวยเหมือนคนอื่นได้ แต่ในความจริงก็คือ คุณสามารถเก่งอะไรก็ได้ ตราบใดที่คุณไม่ย่อท้อและฝึกฝนมันจนเชี่ยวชาญ

8. คุณไม่ได้ทำงานหนักอย่างสม่ำเสมอ
แม้จะดูเป็นคำแนะนำที่ซ้ำซากจำเจ แต่การทำงานหนักอย่างสม่ำเสมอถือเป็นสูตรเดียวที่ทรงพลังที่สุดที่จะพาคุณไปสู่ความสำเร็จและความร่ำรวย ย้ำว่าต้อง “สม่ำเสมอ” เพราะการทำงานหนักเพียงอย่างเดียวไม่ได้รับประกันความสำเร็จ หากคุณไม่สม่ำเสมอ ทำบ้าง ไม่ทำบ้าง นั่นเท่ากับว่าคุณกำลังปล่อยให้ตัวเองสูญเสียโอกาสบนเส้นทางสู่ความร่ำรวยที่ต้องการ เพราะในขณะที่คุณหยุด คนอื่น ๆ ที่กำลังทำงานอย่างหนัก อาจคว้าโอกาสที่เคยจะเป็นของคุณไปก่อน นอกจากจะสูญเสียโอกาส ยังสูญเสียพลัง รวมถึงแรงบันดาลใจในการทำงานมากขึ้น
9. คุณไม่ได้แสดงผลงานของคุณให้โลกเห็น
การมีความสามารถ มีพรสวรรค์ มีผลงานที่ยอดเยี่ยม แต่กลับไม่ได้แสดงสิ่งเหล่านี้ให้โลกเห็น คุณจะคาดหวังกับความร่ำรวยได้อย่างไร? ทักษะใด ๆ ที่คุณมี ไม่ว่าตัวคุณจะมองว่ามันธรรมดา หรืองี่เง่าแค่ไหน แต่ถ้ามันเป็นสิ่งที่ใคร ๆ ไม่สามารถทำแบบคุณได้ แล้วยังมีพลังที่จะสร้างความร่ำรวยได้ เช่น ร้องเพลง วาดรูป ทำงานศิลปะ ทำงานอาหาร ฯลฯ อย่ากลัวที่จะบอกใคร ๆ ว่าคุณทำได้ จงเรียนรู้ที่จะพาตัวเองออกไป เรียนรู้วิธีสร้างเครือข่าย เรียนรู้ที่จะขายตัวเอง เรียนรู้ทุก ๆ อย่างที่ทำได้ แล้วความรวยจะเข้ามาหาคุณเอง
10. คุณไม่ฉวยโอกาสในการเปลี่ยนชีวิต
ในช่วงชีวิตหนึ่งเชื่อว่าทุกคนต้องเคยเผชิญกับโอกาสที่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของตัวเองได้ แต่ปัญหาก็คือ บางคนไม่รู้จักหรือรู้แต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์จากมัน กี่ครั้งแล้วที่คุณละเลยกับความคิดหลาย ๆ อย่างที่ผุดขึ้นมาในหัว? กี่ครั้งแล้วที่คุณปฏิเสธโอกาสในการเริ่มต้นทำธุรกิจหรือลงทุนอะไรสักอย่าง? กี่ครั้งแล้วที่คุณผัดวันประกันพรุ่งที่จะสมัครงานในฝันของคุณ? หากคุณมีนิสัยที่ชอบปฏิเสธความคิดหรือโอกาสที่เข้ามาในทันที โดยที่ไม่ได้คิดไตร่ตรองอย่างรอบคอบก่อน ต่อให้มีโอกาสมากมายที่จะทำให้คุณร่ำรวยขึ้น ก็ไม่มีประโยชน์อะไร
11. คุณไม่ได้ยืดความคิดของคุณมากพอ
การยืดความคิดในที่นี้ หมายถึง ขอบเขตที่ความคิดของคุณสามารถนำคุณไปสู่เรื่องของการทำเงินอย่างมากพอได้ ซึ่งการที่คุณไม่ยืดมันออก แต่ยังยึดอยู่กับความคิดเดิม ๆ ในกรอบแคบ ๆ เหมือนเดิม อาจเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดที่คุณได้ทำระหว่างการเดินทางเพื่อสร้างความร่ำรวย การคิดนอกกรอบ การทำจิตใจให้กว้างขึ้น จะทำให้คุณสามารถตั้งเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่มากขึ้นได้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของชีวิตหรือการเงิน ที่สำคัญยังช่วยให้คุณมีมุมมองในระยะยาวต่อสิ่งต่าง ๆ ได้ดีขึ้น ป้องกันไม่ให้คุณหมดความอดทนไปอย่างง่าย ๆ เมื่อต้องเผชิญกับความท้าทายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
12. คุณไม่ได้ทำงานในสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวย
ไม่ใช่ทุกสิ่งจะอยู่ภายใต้การควบคุมของเราได้ บางครั้งคุณสามารถทำทุกอย่างได้อย่างถูกต้อง แต่กลับยังผิดหวังกับผลลัพธ์อยู่ดี สภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวย คือ สภาพแวดล้อมที่ให้การสนับสนุนทั้งการเติบโตในชีวิต หน้าที่การงาน รวมไปถึงความสำเร็จในทางการเงิน หากคุณอยู่ในสถานที่ที่ยากต่อการใช้ชีวิต ยากต่อการต่อยอดทำธุรกิจหรือลงทุนต่าง ๆ คุณไม่มีทางที่จะประสบความสำเร็จอย่างที่ตั้งใจแน่นอน ถ้าคุณรู้ตัวว่ากำลังเผชิญสิ่งเหล่านี้อยู่ ยังไม่สายที่คุณจะเดินออกมา!
13. คุณไม่เชื่อในตัวเอง และคุณยังกลัวที่จะล้มเหลว
เหตุผลที่คุณไม่แสดงความคิดหรือตัวตนให้โลกเห็น นั่นก็เพราะว่าคุณไม่เชื่อว่าตัวเองดีพอที่จะสร้างบางสิ่งบางอย่างได้ คุณสงสัยในตัวเองแม้กระทั่งความคิดเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือบางทีคุณก็รู้ว่าคุณมีดีอะไร แต่ลึก ๆ คุณกลัวว่าคนอื่นจะพูดถึงคุณยังไง คุณกลัวว่าพวกเขาจะหัวเราะเยาะคุณหากคุณทำล้มเหลว และคุณไม่สามารถรับคำวิจารณ์เหล่านั้นได้ จึงกลายเป็นว่า คุณเลือกที่จะไม่เปิดเผยตัวตน ยอมทิ้งความฝัน และความร่ำรวยที่ต้องการ เพียงเพื่อไม่ให้ตัวเองต้องเผชิญกับความกลัว หากคุณปิดโอกาสให้ตัวเองไปเรื่อย ๆ คุณก็จะสร้างความร่ำรวยได้ยากขึ้น จงจำไว้ว่า “ประตูเปิดให้ผู้ที่กล้าพอที่จะเคาะเสมอ”
14. คุณไม่ให้ความรู้เกี่ยวกับการเงินส่วนบุคคล
สิ่งนี้ถือเป็นการตอกย้ำเกี่ยวกับการลงทุนในตัวเอง เพื่อให้ความร่ำรวยมาสู่คุณโดยเร็ว เงินของคุณงอกเงยขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากจะต้องเรียนรู้ทักษะเพื่อพัฒนาตัวเองแล้ว อีกหนึ่งเรื่องที่ควรให้ความสำคัญก็คือ “การเงินส่วนบุคคล” คุณต้องเรียนรู้เกี่ยวกับการเงินขั้นพื้นฐานไว้บ้าง ไม่ว่าจะเป็นการติดตามค่าใช้จ่าย การสร้างงบประมาณ การจัดการหนี้ การมีเงินฉุกเฉิน รวมถึงการออมเพื่อการลงทุน หากคุณเป็นคนที่ไม่มีความรู้ ไม่เคยศึกษาเกี่ยวกับการเงิน และยังคงใช้ชีวิตอยู่เหนือรายได้ที่คุณทำได้ โอกาสที่คุณจะทำได้ไม่ดีทางการเงินย่อมมีมากขึ้น
15. คุณหยุดออม เพราะคิดว่าตอนนี้ตัวเองมีเงินลงทุนพอแล้ว
หากคุณหยุดออมเงินอย่างจริงจัง เพียงเพราะคิดว่า ตอนนี้ตัวเองมีเงินลงทุนมากพอแล้ว อย่าว่าแต่ความรวย ในอนาคตแม้แต่กองทุนฉุกเฉินคุณก็อาจจะมีไม่เพียงพอ หากวันหนึ่งมีค่าใช้จ่ายมากมายถาโถมเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว โดยเฉพาะหากเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการลงทุนในเงินออมก้อนนั้น แทนที่มันจะงอกเงยและทำให้คุณกลายเป็นเศรษฐีอย่างที่ตั้งใจ กลับกลายเป็นคุณต้อง “เป็นหนี้” อย่างมหาศาล การสร้างความร่ำรวยก็จะยิ่งทำให้สำเร็จได้ยากขึ้น
ที่มา :