หลายครั้งที่เวลาทำงานแล้วเราจะรู้สึกหมดไฟ ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย ดังนั้นวันนี้จะมาพาดู 7 พฤติกรรมที่อาจเป็นส่วนหนึ่งทำให้คุณหมดไฟ หมดพลังงาน และถ้าหากเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง!
1. พยายามทำให้คนอื่นพอใจ
หลายคนมักพยายามพิสูจน์ตัวเองอย่างหนักเพื่อให้เป็นที่ยอมรับไม่ว่าจะเจ้านาย พ่อแม่ อาจารย์ หรือคนรัก แต่ในทุกๆ ครั้งที่คุณพยายามจะทำให้คนอื่นมีความสุข คุณจะกลายเป็นคนที่ไม่มีความสุขแทน(แทบทุกครั้ง) เพราะสิ่งที่ทำก็เพื่อให้คนอื่นพอใจแทนที่จะเป็นตัวเอง ดังนั้นคุณควรที่จะแคร์ความรู้สึกตัวเองให้มากขึ้น และเรียนรู้ที่จะปฏิเสธในบางสิ่งที่คุณไม่อยากทำหรือไม่จำเป็นต้องทำบ้าง
2. คุณดูถูกตัวเองมากเกินไป
การที่มัวคิดว่าตัวเองไม่เก่ง ดีไม่พอ และไม่คู่ควรกับหลายๆ สิ่งนั้นเป็นสาเหตุทำให้คุณหมดไฟไปง่ายๆ ดังนั้นอย่ามัวแต่มองจุดอ่อนว่าตัวเองไม่ดีตรงนั้นตรงนี้ หัดมองข้อดีของตัวเองจะทำให้คุณมีชีวิตชีวา มีความสุข และมีแรงที่จะลุกขึ้นมาทำงาน แต่ก็ไม่ใช่การมองข้ามข้อเสียของตัวเอง เพียงแค่คุณต้องรับรู้และแก้ไข ไม่ใช่จมปลักอยู่กับมันแล้วไม่พัฒนาอะไรเลย
3. โกรธฝังใจ ไม่ยอมปล่อยวาง
ในบางครั้งยาพิษก็มาในรูปแบบของอารมณ์โกรธ ยิ่งคุณโกรธและฝังใจเจ็บมากเท่าไหร่ ก็เหมือนคุณดื่มยาพิษเข้าไปมากเท่านั้น ตามหลักจิตวิทยากล่าวว่าอารมณ์เชิงลบจะส่งผลทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยทางร่างกายและจิตใจ การจมอยู่กับเรื่องไม่ดีในอดีตจะยิ่งเป็นการทำร้ายคุณ ดังนั้นจงหัดปล่อยวางและดีเรียนรู้สิ่งที่ผิดพลาดในอดีตนำมาปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้ตัวเองเดินหน้าต่อไปได้ในอนาคต
4. กังวลทุกเรื่องและคิดมากเกินไป
การมานั่งกังวลในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นอาจทำให้คุณสูญเสียพลังงานไปโดยไม่รู้ตัว และจะทำให้คุณรู้สึกไม่สบายใจ กระสับกระส่าย ซึ่งสิ่งที่ยังไม่เกิดในอนาคตนั้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้ ดังนั้นคุณควรเข้าใจให้ได้ว่าคุณจะไม่สามารถควบคุมสิ่งที่ยังไม่เกิดได้ แต่ควรหันมาให้ความสำคัญกับปัจจุบันและสิ่งที่สามารถควบคุมได้เพื่อเพิ่มพลังในการทำงานและการใช้ชีวิตของคุณดีกว่า
5. เสพติดโซเชียลโดยไม่ใช้วิจารณญาณ
หากคุณเป็นคนนึงที่ใช้โซเชียลมีเดียเป็นเวลานาน คุณจำเป็นอย่างมากที่ต้องรู้ตัวเองและใช้วิจารณญาณในการเสพข่าวสารต่างๆ ในนั้น หลายครั้งที่โซเชียลมีเดียให้ความสนุกหรือแรงบันดาลใจ แต่ก็อาจทำให้คุณรู้สึกแย่ในเวลาเดียวกัน บางครั้งการเห็นชีวิตคนอื่นประสบความสำเร็จมากกว่า แล้วเริ่มเอาตัวเองไปเปรียบเทียบจนทำให้รู้สึกว่าตัวเองนั้นแย่กว่าที่เป็นอยู่ ดังนั้นคุณต้องรู้จักแยกแยะความเป็นจริงให้ได้ ใช้โซเชียลมีเดียให้เกิดประโยชน์ต่อตัวเอง และอย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร
6. นอนหลับไม่เป็นเวลาหรือนอนหลับไม่เต็มที่
ไม่มีอะไรที่จะทำให้ร่างกายสดชื่นได้เท่ากับการนอนกลับให้เต็มที่ คนเราควรนอนหลับให้ได้อย่างน้อย 7 ชั่วโมง/วัน และขณะที่นอนหลับร่างกายจะหลั่งสารที่ช่วยฟื้นฟูสมดุลทางเคมีของร่างกายและสมองของคุณก็จะมีเวลาได้พักผ่อน แต่ปัญหาคือหลายคนมักมีปัญหากับการนอนหลับ ไม่ว่าจะนอนหลับยากหรือการนอนดึก ถึงแม้ว่าตอนนี้ดูจะไม่ใช่ปัญหาร้ายแรงอะไร แต่มันจะส่งผลกระทบต่อคุณในระยะยาวอย่างแน่นอน ดังนั้นคุณควรที่จะฝึกควบคุมการนอนของตัวเอง หากคุณนอนหลับยากก็อาจจะออกกำลังกาย หาอะไรอุ่นๆ ดื่ม เพื่อให้ตัวเองหลับได้ง่ายมากขึ้นนั่นเอง
7. กินอาหารไม่ต่อดีสุขภาพเป็นประจำ
หลายคนมักจะชอบกินฟาสต์ฟู้ดหรืออาหารขยะ ซึ่งมันก็ไม่ใช่ว่ากินไม่ได้ แต่หากคุณกินเป็นประจำทุกวันอาหารขยะเหล่านี้จะส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของร่างกายคุณ ไม่ว่าจะเป็นพลังงานหรืออารมณ์ ถ้าเกิดคุณรู้สึกง่วงหรือเหนื่อยและต้องการงีบหลับหลังจากอาหาร 30 – 45 นาที นั่นแปลว่าคุณควรต้องเปลี่ยนอาหารที่ทาน เน้นทานอาหารให้ที่ประกอบไปด้วยผัก ผลไม้ ถั่ว เนื้อปลา เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน และไขมันที่ดีต่อสุขภาพ เช่นน้ำมันมะกอก การกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพนั้นไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มสารอาหารที่ดีต่อร่างกาย แต่ยังช่วยทำให้คุณรู้สึกระปรี้กระเปร่ามีแรงในการใช้ชีวิตในแต่ละวันอีกด้วย
และนี่ก็คือ 7 พฤติกรรมที่อาจทำให้คุณหมดไฟ หมดพลังงาน เชื่อว่าพฤติกรรมที่กล่าวมาข้างต้นนั้นต้องมีใครหลายๆ คนเคยทำอย่างแน่นอน แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะเมื่อคุณรู้แล้วก็เพียงแค่ปรับตัวเองเพื่อให้มีแรงและพลังงานในการใช้ชีวิตและทำงานมากขึ้นนั่นเอง
ที่มา : https://bit.ly/3CB63DD