ถ้าอยากเป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีที่สุด ไม่จำเป็นต้องทำสำเร็จไปเสียทุกเรื่องก็ได้ แค่เติบโตไปเป็นคนที่ชอบตัวเองที่สุดก็พอแล้ว “9 สัญญาณ” ต่อไปนี้ คือ สัญญาณที่บอกว่าคุณกำลังพัฒนาตัวเองไปถูกทางแล้ว!
1. คุณตื่นนอนด้วยความรู้สึก “ตื่นเต้น” ในทุก ๆ วัน
ต่อให้คุณจะบอกว่าตัวเองเป็นคนเก่ง ทำสำเร็จมาแล้วก็หลายเรื่อง แต่มันจะไม่มีความหมายเลยหากในทุกเช้าคุณกลับต้องตื่นขึ้นด้วยความรู้สึกหวาดกลัว ไม่มีความสุข ซึ่งถ้าคุณกำลังเป็นแบบนี้อยู่ นั่นหมายความว่า คุณกำลังเดินไปผิดทาง ในขณะเดียวกัน หากคุณตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกตื่นเต้นในการเริ่มต้นวันใหม่ มีความสุขตั้งแต่ได้ดื่มกาแฟแก้วแรกของวัน แม้ว่าคุณจะรู้ว่าวันนั้นเต็มไปด้วยงานและเรื่องเครียด ๆ รออยู่ แต่คุณก็ยังคงตื่นเต้นกับความท้าทายและโอกาสที่จะได้ทำในสิ่งที่คุณสนใจ คุณกำลังรอคอยที่จะถึงวันนั้น ๆ มากกว่าหลีกเลี่ยงที่จะเผชิญ นั่นถือเป็นสัญญาณแรกว่าคุณกำลังพัฒนาตัวเองถูกทางแล้วจริง ๆ
2. คุณมี “จุดมุ่งหมาย” ในชีวิตที่ชัดเจน
สัญญาณต่อไปที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าคุณกำลังเติบโตไปเป็นคนที่ชอบตัวเอง เป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีที่สุดอย่างแท้จริงก็คือ คุณมี “จุดมุ่งหมาย” ในชีวิตของตัวเองอย่างชัดเจน คุณรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ต้องทำอะไรบ้าง และคุณก็จะทำสิ่งนั้นด้วยความปรารถนาและแรงจูงใจอย่างมุ่งมั่น โดยสิ่งนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ไม่จำเป็นต้องช่วยโลก หรือสร้างสรรค์ดนตรีหรือเทคโนโลยีใหม่ ๆ แต่อาจเป็นเพียงการดูแลครอบครัว การทำงานอย่างหนัก หรือการออกกำลังกาย แต่ทุกจุดมุ่งหมายล้วนเป็นสิ่งที่ออกมาจากหัวใจของคุณจริง ๆ
3. คุณมองเห็นและเข้าใจตัวเองมากขึ้น
หากถามว่าอะไรคือสิ่งที่บ่งบอกว่าคุณกำลังพัฒนาตัวเองมาถูกทางแล้ว คงไม่มีอะไรชัดเจนไปกว่าการที่คุณ “รู้จักและเข้าใจตัวเอง” มากขึ้น คุณมองเห็นจุดแข็ง ความสามารถตัวเอง รู้และยอมรับจุดอ่อน และข้อบกพร่องของตัวเอง รวมไปถึงการที่คุณเข้าใจสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเองด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่การตัดสินตัวเอง หรือให้คะแนนตัวเอง และไม่ได้เกี่ยวกับการเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น แต่มันคือการที่คุณได้สังเกตตัวเองทั้งนิสัยส่วนตัว ไปจนถึงวิธีการทำงานของคุณ เมื่อเวลาผ่านไปหากคุณรู้สึกว่าเริ่มเข้าใจตัวเองในทุก ๆ ด้านมากขึ้น แสดงว่าคุณกำลังทำถูกต้องแล้ว!
4. คุณกำลังมองหาความสัมพันธ์แบบ win-win
สัญญาณต่อไปที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าคุณกำลังเติบโตเป็นเวอร์ชันที่ดีที่สุดของคุณแล้ว ก็คือ คุณกำลังตามหาความสัมพันธ์แบบ win-win หรือก็คือ ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ไม่ว่าจะในธุรกิจหรือในชีวิตส่วนตัวของคุณ คุณไม่ได้กำลังคิดที่จะเอาชนะคนรอบข้างอีกต่อไป กลับกันแต่คุณเริ่มที่จะสังเกตเห็นว่าชีวิตเหมือนพรมผืนใหญ่ที่เชื่อมโยงกันทั้งหมด ทุกคนไม่จำเป็นต้องเอาชนะเพื่อแย่งชิงพรมของคนอื่น แต่ทุกคนอยู่บนพรมผืนเดียวกันที่ต่างฝ่ายต่างช่วยเหลือและได้ประโยชน์ร่วมกัน ไม่ใช่แค่หาความสัมพันธ์ที่คุณจะได้ประโยชน์อย่างเดียว แต่เป็นความสัมพันธ์ที่คุณก็มีประโยชน์ต่อคนอื่นเช่นกัน
5. คุณไม่ได้มองหาใครเพื่อมาเติมเต็มตัวเองอีกแล้ว
ว่ากันว่าคนเราไม่จำเป็นต้องเอาความสุขไปฝากไว้ที่ใคร แต่ควรเริ่มที่จะมีความสุขด้วยตัวเองมากกว่า คุณถึงจะมีความสุขอย่างแท้จริง ดังนั้น สัญญาณต่อไปที่บอกได้ดีก็คือ ในขณะที่คนอื่นเมื่อรู้สึกโดดเดี่ยว เหงา ไม่เห็นคุณค่าตัวเองมักจะโหยหาเพื่อน หรือคนรักเพื่อมาเติมเต็มสิ่งที่ขาด แต่ในขณะที่คุณไม่ได้มองหาใครเพื่อมาเติมเต็มในชีวิตอีกต่อไปแล้ว คุณสามารถมีความสุขได้ด้วยตัวเอง คุณรู้สึกว่าตัวเองสมบูรณ์แล้ว ไม่ได้ต้องการใครเพื่อเติมเต็มอีกครึ่งที่ขาดอีกต่อไป กลับกันความสัมพันธ์ที่คุณจะมองหาก็คือความสัมพันธ์ที่เข้ามาเพื่อมีความสุขร่วมกันมากกว่า
6. ความสงสัยหรือความกังวลในใจของคุณไม่ได้ทำให้ชีวิตคุณสะดุดอีกต่อไป
ความสงสัยในตัวเองเป็นสิ่งที่ทุกคนล้วนเคยประสบและอาจกลับมาเมื่อเราคาดไม่ถึง แต่อีกหนึ่งสัญญาณที่บอกได้ว่าคุณกำลังเติบโตเป็นเวอร์ชันที่ดีที่สุดก็คือ ความกังวลหรือความสงสัยภายในใจไม่สามารถทำให้ชีวิตคุณสะดุดหรือหยุดชะงัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของงาน ปัญหาความสัมพันธ์ การสูญเสีย หรือแม้แต่ความล้มเหลวในชีวิต คุณอาจจะมีนึกถึงมันบ้าง แต่คุณไม่ได้สนใจมันจนถึงขนาดที่ทำให้คุณลดทอนคุณค่าในตัวเอง หรือปล่อยให้มันกลายเป็นปัจจัยในการตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ ในชีวิตของคุณอีกต่อไป
7. คุณกล้าเผชิญกับการถูกปฏิเสธ
การถูกปฏิเสธเจ็บปวดเสมอ ไม่ว่าจะในแง่ของความสัมพันธ์หรืองานก็ตาม หากมันเป็นสิ่งที่คุณตั้งใจ และคาดหวัง เมื่อถูกปฏิเสธไม่ว่าใครต่างก็ต้องเจ็บปวดด้วยกันทั้งนั้น แต่หนึ่งในสัญญาณที่ปฏิเสธไม่ได้ที่ใหญ่ที่สุดว่าคุณกำลังเติบโตเป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีที่สุดก็คือ แม้แต่การปฏิเสธที่ยากที่สุดก็ไม่กระทบความรู้สึกภายในของคุณเกี่ยวกับคุณค่าในตัวเองอีกต่อไป แน่นอนว่าคุณอาจจะต้องเจ็บปวดอย่างมาก แต่คุณก็จะไม่สงสัยในคุณค่าของตัวเอง นั่นเป็นเพราะคุณเข้าใจทั้งตัวเองและเหตุผลของคนที่ปฏิเสธคุณอย่างแท้จริง
8. คุณกำลังทำสิ่งที่ตัวเองต้องการให้เป็นจริง
หนึ่งในสัญญาณที่บอกได้ดีว่าคุณเติบโตมาเป็นตัวเองอย่างถูกทางแล้วก็คือ วันนี้คุณได้ทำสิ่งที่ต้องการทำให้เป็นจริงได้จริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นในอาชีพการงานหรือชีวิตส่วนตัว คุณกำลังใช้ชีวิตอย่างสุดความสามารถ ได้ทำงาน หรืองานอดิเรกที่มีความหมายต่อคุณ ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก ได้เป็นทุกอย่างที่คุณเป็นได้ เหมือนกับอับราฮัม มาสโลว์ นักจิตวิทยาชาวอเมริกันผู้ที่คิดค้นพีระมิด หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก จากเหตุผลที่ว่า เขาอยากทำให้เป็นจริง ซึ่งสิ่งนี้ไม่ได้บอกแค่ว่าคุณได้ทำในสิ่งที่ต้องการ แต่อีกแง่หนึ่งมันบ่งบอกว่าคุณได้ตระหนักถึงความสามารถและศักยภาพของตัวเองมากแค่ไหนเช่นกัน
9. คุณได้รับคำติชมในเชิงบวกจากคนใกล้ชิด
และอีกหนึ่งสัญญาณก็คือ คุณได้รับคำติชมเชิงบวกจากคนที่รู้จักคุณดี แน่นอนว่าเราอาจไม่สามารถประเมินคุณค่าในตัวเองจากปฏิกิริยาหรือคำพูดที่คนอื่นบอก แต่ถ้าเป็นคนที่อยู่ในชีวิตของคุณไม่ว่าจะครอบครัว เพื่อน คนรัก หรือเพื่อนร่วมงานกล่าวชื่นชมคุณในเชิงบวก เช่น ชื่นชมว่าคุณกำลังกลายเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมาก คุณเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น นั่นแสดงว่าคุณกำลังเติบโตและพัฒนาตัวเองไปถูกทางแล้วจริง ๆ เนื่องจากคนเหล่านั้นนอกจากจะเป็นคนที่ได้ใกล้ชิดกับคุณจริง ๆ และรู้จักตัวคุณดีแล้ว พวกเขายังได้เห็นถึงการเติบโตและพัฒนาการของคุณมาอย่างต่อเนื่องด้วย
อย่างไรก็ดี นอกจากจะพิจารณาจาก 9 สัญญาณข้างต้นแล้ว อีกหนึ่งสิ่งคือ คุณต้องเข้าใจคำว่าการเป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีที่สุด หรือการพัฒนาตัวเองไปถูกทางแล้วนั้นว่าคืออะไรตั้งแต่แรก ซึ่งคำตอบของเวอร์ชันที่ดีที่สุด รวมถึงการเป็นคนที่พัฒนาตัวเองถูกทางแล้ว ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องเป็นคนที่เก่งที่สุด เป็นคนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด แต่หมายถึง คุณสามารถเติบโตมาเป็นคนที่ชอบตัวเองที่สุด สามารถทำให้ตัวเองบรรลุเป้าหมายในชีวิต ไปพร้อม ๆ กับการมีชีวิตที่มีความสุข และเห็นคุณค่าในตัวเองมากที่สุดต่างหาก
ที่มา : https://shorturl.asia/ZS1PR