รายการ อายุน้อยร้อยล้าน ทุกวันเสาร์ 09.00 – 10.00 น. ช่องเวิร์คพอยท์ กดหมายเลข 23
วันนี้มาพบกับเรื่องราวของชายหนุ่มผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของร้านอาหารกว่า 500 ร้านทั่วประเทศ จากความผิดหวังในการทำร้านอาหารบุฟเฟต์ ทำให้เข้าใจความต้องการของเจ้าของร้านอาหารด้วยกัน และมองเห็นช่องทางการทำธุรกิจเพื่อผู้ประกอบการร้านอาหาร สู่การเป็นผู้นำเข้า และขายส่งวัตถุดิบอาหารทะเล ที่คุณภาพดี ราคาเหมาะสม ใช้ความเข้าใจเอาชนะใจลูกค้า จนสามารถส่งขายวัตถุดิบไปกว่า 600 ตันต่อปี สร้างยอดขายกว่า 160 ล้านบาท คุณ ธีรทัศน์บำเหน็จพันธุ์
- มองเห็นโอกาสในการเป็นซัพพลายเออร์ของตนจากการโดนโกง จนสามารถส่งขายวัตถุดิบไปกว่า กว่า 600 ตันต่อปี สร้างยอดขายกว่า 160 ล้านบาท
- จากยอดขายปีละ 50 ล้านบาท กระโดดมาเป็น 125 ล้านบาทต่อปี ในปีที่ 3 ที่เข้าสู่วงการซัพพลายเออร์ จากเริ่มต้น 1 ตู้คอนเทนเนอร์ ทุกวันนี้ส่งขายเดือนละ 2 – 3 ตู้
- วิธีการลงไปเสนอขาย ไปต่อรองกับลูกค้าด้วยตนเองเพิ่มความมั่นใจ และสามารถอธิบายข้อมูลเชิงลึกแก่ลูกค้าได้อย่างดี ถือเป็นการลดขั้นตอนการเจรจา ช่วยย่นเวลาความสำเร็จให้มาถึงเร็วขึ้น
- ใช้ความเข้าใจเอาชนะใจลูกค้า และทำธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์ ทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน
จากเด็กต่างจังหวัดที่มีความฝันว่าจะเป็นนักธุรกิจ แต่ยังรู้สึกว่าไกลตัวเกินไป จึงเลือกมาเรียนต่อในกรุงเทพฯ พอเรียนจบก็ได้เริ่มสมัครงาน แต่ก็ไม่มีที่ไหนรับเข้า จนสุดท้ายตัดสินใจไปเรียนต่อปริญญาโท ด้านวิศวกรรมศาสตร์ ที่ประเทศออสเตรเลีย และกลับมาเริ่มทำงานที่ประเทศไทย โดยก็ทำงานเกี่ยวกับสายที่เรียนมาได้เพียง 8 เดือนเท่านั้น ก่อนจะพบว่าอยากเป็นนายตัวเอง
เดิมทีได้ตัดสินใจร่วมทุนกับเพื่อนเพื่อทำธุรกิจโทรทัศน์ ซึ่งกิจการก็ดำเนินไปได้ดีแค่ในช่วงแรก จึงได้เกิดความคิดที่จะหาอาชีพเสริมทางด้านอาหารที่อยู่ได้ด้วยตนเอง และตัดสินใจเริ่มต้นที่ธุรกิจแฟรนไชส์ หลังจากเปิดร้านก็พบว่ายอดขายดีมาก แต่ก็ยังติดปัญหาเรื่องการคุมต้นทุนไม่อยู่ เนื่องจากเป็นร้านบุฟเฟต์ รวมถึงขาดประสบการณ์ ทำให้โดนซัพพลายเออร์โกงน้ำหนักวัตถุดิบเป็นประจำ
คุณแชมป์จึงตัดสินใจที่จะทำทุกอย่างเพื่อลดต้นทุน ประกอบกับที่ทางแฟรนไชส์ไม่ได้บังคับว่าต้องซื้อวัตถุดิบกับต้นสาขา จึงเริ่มตะเวนหาแหล่งที่ขายวัตถุดิบในราคาที่ถูกลงด้วยตนเอง เริ่มทำการหาวัตถุดิบเอง จนได้พบกับแหล่งที่สินค้ามีคุณภาพ รวมถึงราคาถูก ทำให้คุมต้นทุนได้
แต่การรับวัตถุดิบคุณภาพราคาถูกมาลงเฉพาะที่ร้านนั้นไม่พอสำหรับคุณแชมป์ เพราะเขามองไกลกว่านั้น และได้นำวัตถุดิบไปเสนอขายให้กับร้านอื่นๆ และได้มองเห็นโอกาสในการเป็นซัพพลายเออร์ของตนมากขึ้นเพราะ “ทุกปัญหามีโอกาสดีๆซ่อนอยู่เสมอหาให้เจอและต่อยอดให้ได้มากที่สุด”
ในช่วงแรกๆ ก็สามารถทำรายได้ถึง 100,000 บาท แต่แล้วก็ได้ประสบปัญหาทั้งกุ้งที่ขาดตลาดทำให้ราคาสินค้ามีการผันผวน รวมถึงการเจรจาต่อรองกับผู้ขายซึ่งใช้เวลา แต่ก็ได้เดินหน้าขาย และพูดคุยกับลูกค้าด้วยตนเองมาตลอด จนหาจุดที่ลงตัวได้ และตัดสินใจขายธุรกิจบุฟเฟต์ เพื่อก่อตั้ง King Marine Foods อย่างเต็มตัว
โดยคุณแชมป์ก็ยังใช้วิธีการลงไปเสนอขาย ไปต่อรองกับลูกค้าด้วยตนเองเพื่อเพิ่มความมั่นใจ และอธิบายข้อมูลเชิงลึกของสินค้าได้เป็นอย่างดีเพราะ “การลดขั้นตอนการเจรจาช่วยย่นเวลาความสำเร็จให้มาถึงเร็วขึ้น” หลังจากจัดตั้ง King Marine Foods แล้วก็ได้มีโอกาสเดินทางไปเจรจาซื้อ ขายกับทางฟาร์มวัตถุดิบเองที่ต่างประเทศ ถึงแม้จะมีอุปสรรคในด้านของค่าเงินเข้ามา สุดท้ายก็ได้คำปรึกษาจากผู้ใหญ่ที่ทำธุรกิจด้านนี้ และเรียนรู้เพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีก จนก้าวผ่านมาได้
จากยอดขายปีละ 50 ล้านบาท กระโดดมาเป็นเพิ่มเป็น 125 ล้านบาทต่อปี ในปีที่ 3 ที่เข้าสู่วงการซัพพลายเออร์ จากเริ่มต้น 1 ตู้คอนเทนเนอร์ ใช้เวลาครึ่งปีกว่าจะขายหมด ทุกวันนี้ส่งขายเดือนละ 2 – 3 ตู้ และไม่ได้มีเฉพาะปลาแซลมอน แต่ยังมีวัตถุดิบทะเลอื่น ๆ เช่น หอยแมลงภู่ กุ้ง และปลาแพนกาเซียสอีกด้วย
ปัจจุบัน คุณแชมป์อายุเพียง 37 ปี แต่ได้เริ่มขยับขยายกิจการของตนเองโดยเช่าสถานที่จัดเก็บสินค้าขนาดใหญ่ มีรถส่งสินค้าเพื่อความสะดวกสบายของลูกค้า และเริ่มจ้างโรงงานแปรรูป เพื่อให้มีสินค้าที่หลากหลายมากขึ้น จนยอดขายปีล่าสุดอยู่ที่ 160 ล้านบาท
จุดก้าวกระโดดของธุรกิจคือการใช้ความซื่อสัตย์ต่อลูกค้าเป็นที่ตั้ง และการเข้าใจในมุมมองของร้านอาหารที่โดนเอาเปรียบเพราะ “การทำธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์ย่อมทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน” คุณแชมป์ฝากทิ้งท้ายไว้สำหรับคนที่เจอกับอุปสรรคต่างๆ “อย่าไปท้อแท้อุปสรรคมีไว้เพื่อมาพิสูจน์เราว่าเราแข็งแกร่งแค่ไหนขอให้ทุกคนลุกขึ้นมาต่อสู้ถ้าคุณทำได้คุณเป็นอายุน้อยร้อยล้านคนต่อไปแน่นอนครับ”
