คนพูดเก่ง ชวนคุยเก่ง เข้าสังคมเก่ง อาจไม่ได้เป็นนักขายที่เก่ง เท่าคนที่พูดไม่เก่ง แต่ฟังเก่ง 

406

คนพูดเก่ง ชวนคุยเก่ง เข้าสังคมเก่ง อาจไม่ได้เป็นนักขายที่เก่ง เท่าคนที่พูดไม่เก่ง แต่ฟังเก่ง เพราะพวกเขาเหล่านี้มักมี “ทักษะการฟัง” ที่เป็นเลิศ! แม้ “การพูด” จะเป็นหนึ่งในทักษะที่สำคัญในการขาย เจรจา หรือต่อรองเกี่ยวกับธุรกิจ และหลายคนก็ยังเข้าใจว่า การจะเป็นนักขายที่ดีและเก่งได้ ต้องพูดเก่ง ซึ่งนั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะอีกทักษะหนึ่งที่นักขายจะขาดไม่ได้ ก็คือ “การตั้งใจฟัง”

#การตั้งใจฟังช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้พูดและผู้ฟัง

เพราะหน้าที่ของนักขายคือ ทำยังไงก็ได้ให้ขายให้ได้ และนักขายส่วนใหญ่ก็มักใช้วิธีการเดียวกัน คือ “พูดให้ได้มากที่สุด” พยายามนำเสนอคุณสมบัติ สรรพคุณต่าง ๆ ของสินค้าให้ลูกค้ารับรู้มากที่สุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นวิธีที่ดีและได้ผล แต่จะกลายเป็นวิธีที่ไม่ได้ผลทันที หากคุณเป็นนักขายที่เอาแต่พูดเพียงอย่างเดียว โดยที่ไม่หยุดฟัง หรือฟัง แต่ฟังเฉย ๆ โดยไม่ได้สนใจว่าสิ่งที่ลูกค้าต้องการจริง ๆ คืออะไร แทนที่จะขายได้ อาจทำให้ลูกค้ารู้สึกว่ากำลังถูก “ยัดเยียด” ให้ต้องซื้อมากกว่า แทนที่จะสนใจ อาจทำให้เขายิ่งอยากหนีมากกว่าด้วยซ้ำ

ดังนั้น การฟัง ถือเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างคุณและลูกค้า ไม่ว่าจะครั้งแรกที่เจอหรือครั้งต่อ ๆ ไป หากคุณเป็นนักขายที่พูดและเข้าหาคนไม่เก่ง แต่คุณยังมีคุณสมบัติของการเป็น “นักฟังที่ดี” ตั้งใจฟังในสิ่งที่ลูกค้ากำลังพูด เก็บรายละเอียดคำพูดเก่ง สังเกตท่าทีเก่ง และรู้ว่าพวกเขาต้องการอะไรหรือไม่ต้องการอะไร แม้จะพูดไม่เก่ง แต่คุณจะรู้วิธีในการขายและเข้าหาลูกค้าได้แน่นอน และยิ่งหากคุณแสดงให้พวกเขาเห็นว่าคุณสนใจและให้ความสำคัญกับทุก ๆ คำพูด ความคิดเห็น และความต้องการของเขา ก็จะยิ่งช่วยสร้างความประทับใจ รวมถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างคุณและลูกค้าด้วย การขายก็ยิ่งเป็นเรื่องง่ายไปในทันที

#การตั้งใจฟังช่วยไม่ให้เกิดการสื่อสารที่ผิดพลาด

การฟัง ถือเป็นวิธีสำคัญวิธีหนึ่งในการช่วยหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการสื่อสารที่ผิดพลาด ที่สำคัญการฟังยังช่วยให้การพูดนั้นสมบูรณ์ยิ่งขึ้น เพราะหากคุณตั้งใจฟังอย่างดี ก็จะสามารถสรุปบทสนทนา ย้ำประเด็นสำคัญ รวมถึงรับรู้ความต้องการและความสนใจของลูกค้า รวมถึงเข้าใจในสิ่งที่เขากำลังบอกคุณ หรือหากคุณและอีกฝ่ายไม่เข้าใจในประเด็นใด ก็สามารถอธิบายให้เข้าใจตรงกันได้ ซึ่งก็จะช่วยลดไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด ขณะเดียวกันก็อาจช่วยให้คุณปิดการขายได้ง่ายขึ้นด้วย

#นักขายควรฟังให้มากขึ้นสองเท่า

นักขายมักให้ความสำคัญกับวิธีการขายที่ต้องพูดตลอดเวลา โดยที่ไม่ได้ใส่ใจฟังว่าลูกค้าต้องการอะไร หรือมีความคิดเห็นอะไร คำแนะนำที่จะทำให้คุณเป็นนักขายที่เก่งขึ้นก็คือ “ในเมื่อคุณมีหูสองข้าง และมีเพียงหนึ่งปาก คุณก็ควรใช้มันในสัดส่วนนั้น” คือ ใช้เวลาฟังเป็นให้มากเป็นสองเท่าของการพูด เพราะถ้าคุณฟังพวกเขาอย่างตั้งใจ จะทำให้คุณเห็นว่า พวกเขาคิดอย่างไรกับสินค้าหรือบริการของคุณบ้าง ชอบหรือไม่ชอบอะไร และอะไรที่สำคัญสำหรับพวกเขา ซึ่งในท้ายที่สุดก็จะทำให้คุณรู้ว่าควรพัฒนาสินค้าหรือบริการอย่างไร และจะใช้วิธีการในการปิดการขายอย่างไร

#การฟังภาษากายก็เป็นสิ่งที่สำคัญ

การเป็นนักขายที่เก่ง ไม่ใช่แค่ต้องใช้หูฟังแค่ภาษาพูดเท่านั้น แต่ต้องใช้ “ตา” ฟัง “ภาษากาย” ร่วมด้วย เนื่องจากภาษากายมีความสำคัญต่อการสื่อความหมาย ดังนั้น หากคุณฟังแต่ไม่มอง อาจทำให้คุณพลาดข้อความสำคัญที่เขาต้องการสื่อร่วมด้วยก็ได้

อย่างไรก็ตาม เพราะการเป็นนักขายที่ดีและเก่ง เรื่องของการฟังถือเป็นสิ่งที่ต้องมี ถ้าวันนี้คุณยังเป็นนักขายที่พูดเก่งเพียงอย่างเดียว แต่ยังฟังไม่เก่ง คุณอาจต้องใช้เวลาและความพยายามในการทำลายนิสัยการฟังที่ไม่ดีและพัฒนาให้ดีกว่านี้ได้ โดยวิธีในการพัฒนาและฝึกฝนการเป็นนักฟังที่ดีก็คือ ฟังอย่างตั้งใจโดยไม่ต้องคิดถึงคำตอบของตัวเองไว้ก่อน, พยักหน้า สบตา หรือทำให้เขารู้สึกว่ากำลังฟังอยู่, ต่อบทสนทนา ถามคำถามปลายเปิดเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม, ชี้แจงความเข้าใจของคุณด้วยคำถามที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น, พยายามสังเกตภาษากาย และสังเกตอารมณ์ของผู้พูดและความหมายที่ซ่อนอยู่, การย้ำและถอดความคิดของผู้พูดเพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่คุณเข้าใจนั้นถูกต้องหรือไม่ ถ้าคุณสามารถพัฒนาทักษะการฟังของตัวเองให้ดีขึ้นได้ คุณก็จะเป็น “นักขายที่เก่ง” ได้แน่นอน

ที่มา : https://bit.ly/2HkIxz7