ปัจจุบันโรคร้ายแรงต่างๆ ที่ส่งผลกระทบถึงการใช้ชีวิตประจำวันนั้น มีอัตราการเกิดขึ้นกับคนในช่วงอายุที่น้อยลงเรื่อย ๆโดยเฉพาะ โรคร้ายแรงที่ไม่แสดงอาการ ไม่มีอาการเตือนล่วงหน้า หรือ ตรวจไม่พบจากการตรวจสุขภาพทั่วไป โดยเฉพาะ โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคมะเร็ง
โรคแรกคือ “โรคหัวใจ” คนส่วนใหญ่มักมองว่าเป็นโรคที่จะเกิดกับผู้สูงอายุ 50 ปี ขึ้นไป แต่จากประสบการณ์ทำงาน เป็น วิสัญญีแพทย์ เคยพบผู้ป่วยที่ต้องการทำบายพาสหัวใจ ในอายุเพียง 32 ปีเท่านั้น เนื่องจากโลกที่เปลี่ยนแปลงไป อุปนิสัยในการกินที่มีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงมากขึ้น ความเครียดที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะภาวะการกินที่นำไปสู่การเกิดโรคอ้วน เกิดภาวะไขมันอุดตันเส้นเลือด หรือเป็นโรคเบาหวาน การดื่มแอลกอฮอล์ รวมไปถึงการสูบบุหรี่ ปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นตัวทำร้ายเส้นเลือด แล้วโรคหัวใจก็จะเกิดขึ้นเมื่อเกิดภาวะหัวใจทำงานหนัก จึงทำให้การตรวจสุขภาพทั่วไป อาจไม่สามารถบอกได้ทุกคนว่าเป็นโรคหัวใจหรือไม่ เพราะโรคนี้ไม่ใช่โรคติดต่อ เป็นโรคที่เกิดจากการพฤติกรรมสะสมของตัวเราเอง
โรคร้ายแรงต่อมา ที่เกิดจากสาเหตุคล้ายกัน คือ “โรคหลอดเลือดสมอง” หรือ Stroke โรคนี้เกิดจากสมองขาดเลือดไปเลี้ยงเนื่องมาจากหลอดเลือดสมองตีบหรือแตก ส่งผลให้ผู้ป่วยแขนขาอ่อนแรง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หรือถึงขั้นเสียชีวิต ในกรณีที่หลอดเลือดตีบซึ่งพบได้บ่อยกว่า สามารถให้ยาเพื่อละลายลิ่มเลือดที่ไปอุดตันได้ หากได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วภายใน 4ชั่วโมงครึ่งหลังมีอาการ แต่กรณีที่เกิดจากหลอดเลือดสมองแตกนั้นจะรุนแรงกว่ามากและมักจะต้องรักษาด้วยการผ่าตัด
อีกโรคร้ายแรงที่เกิดขึ้นกับคนในอายุที่น้อยลงคือ “โรคมะเร็ง” โรคนี้เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งกรรมพันธุ์ ทั้งการติดเชื้อไวรัส เช่น ไวรัสตับอักเสบบี หรือ ไวรัส HPV ซึ่งในปัจจุบันเราสามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน
เราไม่สามารถทราบล่วงหน้าว่าโรคร้ายแรงเหล่านี้ หรือโรคร้ายแรงอื่น ๆ จะเกิดขึ้นกับตัวเราแบบเฉียบพลันหรือไม่ เมื่อไหร่ บางคนอาจถึงขั้นเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว หรือบางคนอาจไม่เตรียมเงินไว้เพื่อการรักษาพยาบาล จนทำให้ส่งผลกระทบเกิดขึ้นตามมาในครอบครัว เพราะการรักษาโรคร้ายแรงเหล่านี้ มีค่าใช้จ่ายสูง การรักษาโรคร้ายแรงด้วยการผ่าตัดอาจเริ่มต้นตั้งแต่ 200,000 บาท ขึ้นไป หรือในบางกรณีอาจจะสูงกว่า 1,000,000 บาท
ดังนั้นการเตรียมตัว วางแผน เพื่อรับกับโรคร้ายแรงที่จะเกิดขึ้นกับเรา จึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างมาก วันหนึ่งถ้าเราเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง จนต้องรับการรักษาพยาบาล สิ่งที่คำนึงถึงคือ จะจัดการกับค่ารักษาพยาบาลนี้อย่างไร เงินที่มีอยู่นั้นเพียงพอสำหรับใช้เพื่อการรักษาพยาบาล จากโรงพยาบาลมีคุณภาพและความรวดเร็วในการรักษาได้หรือไม่ คนที่เรารัก หรือแม้กระทั่งธุรกิจของเราจะเป็นอย่างไร
วันนี้หลักประกันสุขภาพ หลักประกันชีวิต แผนการเงินเพื่อรองรับเรื่องฉุกเฉินเพียงพอสำหรับเรา และคนที่เรารัก รวมถึงธุรกิจ และกิจการ ของเรามีเพียงพอและสามารถรองรับ สิ่งเหล่านี้หรือไม่ นี่น่าจะเป็นเรื่องจำเป็นที่ผมอยากให้ทุกคนตระหนักถึง โดยเฉพาะเจ้าของกิจการ คุณค่าของคุณมีมากกว่ามูลค่าทรัพย์สินที่คุณมี
สุดท้ายก่อนจะไปพิจารณาว่าหลักประกันของเราเพียงพอแล้วหรือไม่ วันนี้เราควรหันกลับมาสนใจเรื่องการดูแลสุขภาพของตัวเองก่อน มาสำรวจกันครับว่า เราออกกำลังกายเป็นประจำหรือยัง ทานอาหารที่มีประโยชน์และมีคุณค่าต่อร่างกายใช่มั้ย มีการนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอ เราบริหารความเครียดได้ดีหรือยัง และหมั่นตรวจสุขภาพตามความเสี่ยงของเพศและวัย อย่าลืมนะครับถ้าเราดูแลสุขภาพให้ดีตั้งแต่วันนี้ ก็จะทำให้ร่างกายแข็งแรงและช่วยลดความเสี่ยงเรื่องการเจ็บป่วยลงไปได้