ชมวิถีชีวิตหมู่บ้านกลางทะเล ล่องเรือชมเกาะ ชิมข้าวซอยสูตรพริกแกงใต้ หมู่บ้านกลางน้ำ จ.พังงา
สำหรับหลาย ๆ คน “หมู่บ้านกลางน้ำ” อาจไม่เป็นที่รู้จัก หรืออาจเป็นเพียงแค่ทางผ่าน ในอ่าวพังงา แต่หากนักท่องเที่ยวได้ลองเดินทอดน่องช้า ๆ สัมผัสวิถีชีวิตและกลิ่นอายความเป็นชุมชนอิสลามบนเกาะที่มีพื้นที่เล็ก ๆ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแห่งนี้จนทำให้ตกหลุมรักได้ไม่ยากเลย
ความเป็นมาของเกาะปันหยี
“หมู่บ้านกลางน้ำ” ชุมชนมุสลิม ที่ถูกสร้างอยู่กลางทะเลโดยไม่มีพื้นดินมานานกว่า 200 ปี จุดเริ่มต้นของหมู่บ้าน เกิดจากบรรพบุรุษของคนปันหยี ซึ่งเป็นครอบครัวชาวชวา จำนวน 3 ครอบครัว อพยพมาจากอินโดนีเซียโดยเรือใบ 4 ลำ เพื่อค้นหาแหล่งทำกินที่ดีกว่าเดิม พวกเขาตกลงกันว่าหากใครพบที่ทำกินก่อน ให้สื่อสัญญาณด้วยการปักธงที่ยอดเขา และในที่สุดครอบครัว “โต๊ะบาบู” ก็พบเกาะก่อนใคร จึงขึ้นไปปักธงไว้ที่ยอดเขา และตั้งชื่อเกาะนั้นว่า “ปันหยี” ที่แปลว่า “ธง”
พื้นที่ส่วนใหญ่ของ เกาะปันหยี ตั้งอยู่ในทะเลอ่าวพังงา และด้วยพื้นที่เป็นแผ่นดินอยู่น้อยนิดนี้ ชาวเกาะปันหยี ใช้เป็นที่ตั้งของศูนย์กลางหมู่บ้านและศาสนา ส่วนบ้านเรือน ร้านค้า และโรงเรียนตั้งอยู่ในน้ำ เดิมทีมีทางเดินเชื่อมถึงกันด้วยสะพานไม้ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสะพานปูนในปัจจุบัน หลงเหลือสะพานไม้โบราณไว้เพียง 1 แห่ง เป็นทางเดินยาวภายในหมู่บ้านไปจนถึงริมน้ำ เวลาน้ำขึ้น “หมู่บ้านปันหยี” จึงแลดูเหมือนหมู่บ้านลอยน้ำ แต่พอน้ำลงจะเห็นว่าบ้านนับร้อยหลังนั้น ตั้งอยู่บนเสาที่ปักในเลนมาตั้งแต่อดีต
ชาวเกาะปันหยีเกือบทั้งหมดนับถือศาสนาอิสลาม มีมัสยิดดารุสสลามอันเป็นศูนย์รวมทางศาสนาของชาวเกาะปันหยีซึ่งมีความสวยงามและสามารถมองเห็นได้จากระยะไกล
ปัจจุบันเกาะปันหยีกลายเป็นหนึ่งในชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ที่ต้องรองรับนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ทำให้วิถีชีวิตของชาวบ้านเปลี่ยนไป โดยชาวบ้านหันมาทำธุรกิจเพื่อการบริการนักท่องเที่ยวมากขึ้น ทั้งพายเรือ ทำร้านอาหาร ขายผ้าบาติก ขายเครื่องประดับจากมุก และทำโฮมสเตย์ แต่ถึงอย่างนั้น ชาวบ้านก็ยังไม่ละทิ้งอาชีพเดิมที่บรรพบุรุษทิ้งไว้ให้อย่างการทำประมง ชาวบ้านส่วนใหญ่จะออกเรือไปทำประมงตอนกลางคืน วางลอบ วางอวนดักสัตว์ทะเล พอเช้ามาก็ไปเก็บ ก่อนจะออกไปทำหน้าที่บริการนักท่องเที่ยว
สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเกาะ
- ถ้ำทะลุ เป็นเกาะตั้งอยู่ในทะเล มีช่องว่างระหว่างกลางเรียกว่า ถ้ำทะลุ นักท่องเที่ยวสามารถพายเรือแคนูชมบริเวณโดยรอบได้
- ภูเขาเขียน ชมภาพเขียนโบราณ เชื่อกันว่าเป็นภาพเขียนตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ปรากฏเป็นรูปต่าง ๆ เช่น ลิง ปลาโลมา และจระเข้ เป็นต้น
- สนามฟุตบอลลอยน้ำ ที่เดียวในประเทศไทย และได้รับการจัดอันดับจากสื่อในประเทศอังกฤษว่าเป็นสนามฟุตบอลที่สวยที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก
สนามฟุตบอลลอยน้ำ
สนามฟุตบอลลอยน้ำบนเกาะปันหยี ถูกจัดอันดับให้เป็นสนามฟุตบอลที่สวยติดอันดับ 1 ใน 3 ของโลกจากสื่ออังกฤษ แต่สนามฟุตบอลแห่งนี้มีมากกว่าความสวยงาม เพราะแฝงไปด้วยความฝันของเด็ก ๆ บนเกาะแห่งนี้ คุณเจริญเล่าให้ฟังว่า หลายสิบปีก่อน เด็กชายกลุ่มหนึ่งมีใจรักฟุตบอล ฝันอยากเล่นเก่งเหมือนเปเล่ ซิโก้ แห่งบราซิล แต่เพราะสภาพแวดล้อมที่มีแต่ภูเขากับทะเล พวกเขาจึงต้องอาศัยเล่นตามชายหาดเวลาน้ำลง ต่อมาก็หาเศษไม้มาต่อเป็นแพปลาแล้วเตะเล่นกันบนแพ พอนานวันเข้าก็เริ่มผุพัง มีเสี้ยน มีตะปู และไม้ไม่แข็งแรง จึงเกิดการพัฒนาต่อมาสู่สนามฟุตบอลผืนที่ 2 คือสนามฟุตบอลลอยน้ำ ซึ่งสนามฟุตบอลของเกาะปันหยี ก็ได้สร้างทีมนักเตะเยาวชนสโมสร “ปันหยีเอฟซี” ที่ครองแชมป์มาแล้วหลายรายการ เป็นเหมือนเครื่องที่คอยย้ำเตือนให้เด็ก ๆ รู้ว่า พวกเขาก็สามารถมีความฝันเหมือนเด็ก ๆ คนอื่นได้
ชิมอาหารถิ่นชาวปันหยี
- เมนูแกงหอยโล่
หอยโล่ที่เก็บมาจากป่าโกงกาง ต้องถูกนำมาแช่น้ำทิ้งไว้ 1 – 2 คืน เพื่อให้โคลนคลายตัวออกจากหอย จากนั้นนำไปต้มในน้ำแกงกะทิ ที่ใส่เครื่องแกงสูตรใต้เข้มข้นลงไปจนหอม เพิ่มความหอมยิ่งขึ้นด้วยใบมะกรูด และปรุงรส เวลาทานต้องใช้วิธีการจุ๊บ ให้หอยดันตัวออกมา หอยโล่จึงมีชื่อในภาษากลางว่า “หอยจุ๊บแจง”
- เมนูหอยเข็มผัดตะไคร้
ใส่กระเทียม และตะไคร้ลงไปผัดในกระทะจนกลิ่นหอม จากนั้นนำหอยเข็มลงไปผัดคลุกเคล้ากันจนสุก ที่เรียกว่าหอยเข็มก็เพราะเวลาทาน จะต้องใช้เข็ม หรือไม้ปลายแหลมเสียบลงไปในเปลือกหอย และงัดเนื้อหอยออกมาทานนั่นเอง
- เมนูข้าวยำ
ข้าวสวยร้อน ๆ คลุกเคล้ากับเครื่องสมุนไพรนานาชนิด เติมปลาป่นลงไปเพิ่มรสสัมผัส ราดน้ำยำสูตรพิเศษรสชาติเข้มข้น คลุกเคล้าให้เข้ากันก่อนเสิร์ฟ
- เมนูน้ำพริกขยำ
น้ำพริกขยำเมนูหาทานยาก ใส่พริกซอย หอมแดง กะปิ มะขาม ก่อนเติมน้ำต้มสุกลงไปสักนิด ลงมือขยำจนส่วนผสมเข้ากันดี จัดเสิร์ฟพร้อมผักสด และผัดต้ม
เมนู OTOP ชวนชิม “ข้าวซอยสูตรใต้ใส่กุ้งแชบ๊วย” ร้านปันหยีมูเทียร่า
เป็นสูตรของคุณปู่คุณย่า ที่คุณย่าเป็นสาวชาวเหนือ ส่วนคุณปู่เป็นหนุ่มใต้ ที่พบรักกัน และย้ายมาตั้งรกรากอยู่ที่เกาะปันหยีตามบ้านเกิดของปู่ คุณย่าชอบทานข้าวซอยมาก จึงมักทำให้คุณปู่ทาน แต่วัตถุดิบก็หายาก จึงนำวัตถุดิบในท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้ เปลี่ยนพริกแกงเหนือ เป็นพริกแกงใต้สูตรเข้มข้น เปลี่ยนหมี่เส้นแบน เป็นหมี่เหลืองของใต้ นำมาทอดให้กรอบ ส่วนเนื้อสัตว์ก็จับเอาสัตว์ทะเลมาใช้แทน เพราะหาได้ง่าย เกิดเป็นเมนูใหม่ ตามสูตรเฉพาะของร้านปันหยีมูเทียร่า ที่มีมากว่า 40 ปี
เพราะทุกชุมชน ล้วนมีเรื่องราวที่น่าสนใจ และอาหารก็มักจะสะท้อนให้เห็นถึงเรื่องราว และวิถีชีวิตของคนในชุมชนได้เป็นอย่างดี เราหวังว่าการเดินทางมายังเกาะปันหยีแห่งนี้ จะทำให้ทุกคนรู้สึกภูมิใจในวิถีชีวิตที่สืบทอดกันมาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ ที่ก่อให้เกิดเมนูอาหารถิ่นที่ถูกส่งต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น และส่งต่อให้ได้เห็นเสน่ห์ของเมืองไทย และอาหารไทย เพื่อส่งต่อเสน่ห์ครัวไทย ไปสู่ครัวโลก