เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงมีความฝัน อยากนำของที่มีอยู่มาพัฒนาต่อยอดให้เป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ เช่นเดียวกับ คุณทสม์ เจริญช่าง หรือ คุณทสม์ ที่มองเห็นคุณค่าของสวนมะม่วงหาว มะนาวโห่ของพ่อแม่ ตัดสินใจแปลงโฉมให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแบบครบวงจร ทั้งขายของฝาก และคาเฟ่ ที่จับผลไม้ในวรรณคดีที่เปี่ยมไปด้วยสรรพคุณ แต่รสชาติเปรี้ยวฝาด มารังสรรค์ให้เป็นหลากหลายเมนูใหม่กว่า 30 ชนิด ที่น่าตาน่ารับประทาน และรสชาติอร่อย ทานได้ตั้งแต่เด็ก จนกระทั่งผู้สูงอายุ สร้างยอดขาย 1 ล้านบาทต่อเดือน
จุดเริ่มต้นของคาเฟ่ในสวน แหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาตินี้เกิดขึ้นจาก “ลุงศิริ เจริญช่าง”พ่อของคุณทสม์ เคยป่วยหนักเป็นโรคถุงลมโป่งพองจากการสูบบุหรี่ต่อเนื่องถึง 40 ปี แต่เมื่อ 15 ปีก่อน ตอนไปไหว้พระทำบุญ แล้วพระแนะนำว่า ‘ผลมะนาวโห่’ หรือ ‘หนามแดง’ แก้เจ็บคอได้ ลุงศิริทดลองชิมแล้วอาการไอน้อยลง เสมหะลดลง จึงหาพันธุ์ผลไม้นี้มาปลูกบนที่ดินที่มีในจังหวัดสมุทรสงคราม แต่เนื่องจากต้นไม้โตช้า จึงต้องปลูกจำนวนเยอะเพื่อผลผลิตต่อเนื่องให้ลุงกินทุกวัน กระทั่ง 1 ปีผ่านไป แทนที่จะต้องผ่าตัด อาการของคุณลุงกลับดีขึ้นมากจนหมอแปลกใจ จึงแนะนำให้เพื่อนฝูงลองทาน ปรากฏว่าช่วยบรรเทาโรคเบาหวาน โรคความดัน และสารพันโรคของเพื่อน ๆ ด้วย ทั้งคู่จึงหันมาทำสวนมะนาวโห่อย่างจริงจังในจังหวัดสมุทรสงคราม โดยขายผลไม้และแบ่งต้นให้เพาะพันธุ์ด้วย
เมื่อทำสวนมะนาวโห่ได้สักระยะ ก็เริ่มมีคนมาขอซื้อต้นบ้าง ซื้อผลบ้าง “สวนมะนาวโห่ลุงศิริ” จึงกลายเป็นอีก 1 ธุรกิจของครอบครัว คุณทสม์ที่ตอนนั้นกำลังเรียนปริญญาโท ด้านบริหาร ได้เห็นผลงานเรื่องการเปลี่ยนสถานที่ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว จากธีสิสที่อาจารย์นำมาให้ดูเป็นตัวอย่าง จึงมองเห็นมูลค่าว่าสวนมะนาวโห่ที่บ้านก็สามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนได้เหมือนกัน และคงจะดีถ้าลูกค้าที่มาอุดหนุนต้น หรือผลมะนาวโห่กลับไป จะได้แวะเวียนกลับมาเที่ยวที่สวนได้อีก ซึ่งก็จะทำให้ครอบครัวมีรายได้หมุนเวียนเข้ามามากขึ้น
หลังจากเรียนจบ คุณทสม์ตัดสินใจกลับบ้านมาแปลงโฉมสวนมะนาวโห่ลุงศิริ มีการไปปรึกษากับทาง ททท. และกรมการเกษตรถึงแนวทางความเป็นไปได้ และนำมาพัฒนาต่อ ปรับแต่งสวนให้สวย เพื่อให้คนเข้ามาเที่ยว เข้ามาถ่ายรูป
เมื่อสวนมะนาวโห่ลุงศิริเปิดให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ก็ได้รับผลตอบรับดีมาก เมื่อก่อนเวลาคนนึกถึงจังหวัดสมุทรสงคราม จะนึกถึงมะพร้าวอ่อน ลิ้นจี่ ส้มโอขาวใหญ่ ทุกวันนี้ก็เริ่มคิดถึงมะนาวโห่กันบ้างแล้ว นั่นคือสิ่งที่ทำให้คุณทสม์ภูมิใจ
แต่หลังจากทำไปสักระยะ ก็ได้เห็นถึงช่องโหว่ของการเปิดสวนให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว นั่นก็คือถ้าเป็นที่เที่ยวอย่างเดียว ไม่ได้เก็บค่าเข้าชมไม่มีรายได้จากตรงนี้เพิ่มมากนัก จึงมีการปรับจากที่เปิดเป็นสวนให้เข้ามาเที่ยว มาซื้อผล ซื้อต้นอ่อน ก็พัฒนาต่อโดยทำน้ำมะนาวโห่คั้นขายกันแบบสด ๆ และจากการขายน้ำคั้นกันแบบบ้าน ๆ ก็เริ่มพัฒนาต่อเป็นการสร้างผลิตภัณฑ์แปรรูป
หลังจากนั้นคุณทสม์ก็พบว่า คนที่มาเที่ยวเป็นคนรุ่นใหม่ มีไลฟ์สไตล์ชอบนั่งร้านกาแฟ ชอบทานน้ำเครื่องดื่ม และขนม จึงตัดสินใจเปิดเป็นคาเฟ่เล็ก ๆ ในสวน มีอาหาร ขนม และน้ำผลไม้จากมะนาวโห่ขาย ตั้งใจให้กลุ่มวัยรุ่นได้แวะเข้ามานั่งถ่ายรูป เช็คอิน และทานของอร่อยกันเพลิน ๆ หรือจะมา นั่งรอเพื่อไปเที่ยวตลาดน้ำอัมพวาตอนเย็น ๆ ก็ได้
เมื่อพ่อ แม่ พี่ น้อง ขายได้หมดแล้ว แล้วจะขายอะไรให้เด็ก ๆ ที่เดินทางมากับครอบครัว ก็นำ มะนาวโห่ที่ผลสุกสีดำ และปลูกแบบเกษตรอินทรีย์ ซึ่งช่วยให้รสเปรี้ยวฝาดไม่ชัดมากนัก มาแปรรูปเป็นเยลลี่ และไอศกรีมขาย คุณทสม์เรียนรู้ทุกอย่างจากปัญหา ถ้ามะนาวโห่มันทานยาก ก็ต้องทำให้มันอร่อย และทานง่าย เติมจุดที่บกพร่อง จึงจะสร้างรายได้ และได้เงินจากคนทุกเพศ ทุกวัยที่เดินทางมาด้วยกัน
คุณทสม์เปลี่ยนภาพลักษณ์สมุนไพรโบราณ ให้กลายเป็นเบอร์รี่ชนิดหนึ่งที่พลิกแพลงทำอาหารได้ สารพัด จากน้ำผลไม้ หรือผลไม้แช่อิ่มง่ายๆ ทุกวันนี้เขามีนักวิทยาศาสตร์อาหารมาช่วยออกแบบของอร่อย ที่ซับซ้อน ทั้งแยม น้ำพริก น้ำไซเดอร์ ชา ผลไม้กวน ผลไม้ลอยแก้ว ผลไม้สามรส เยลลี่ และไอศครีมเชอร์เบท กระทั่งกลายเป็นแบรนด์ “สิริสมปอง” ของฝากประจำจังหวัดสมุทรสงคราม มะนาวโห่ที่สวนของเขาจึง ดึงดูดผู้คนหลากหลายขึ้นทุกที ตั้งแต่ผู้ใหญ่ที่เข้ามาซื้อเพื่อสุขภาพ จนถึง ลูกค้าตัวน้อยจากชลบุรีที่ให้คุณ ตาพามาซื้อเยลลี่สีแดง 20 กว่าถ้วยทุกเดือน ซึ่งนั่นคือสิ่งที่ทำให้เขาไปถึงเป้าหมายที่ตั้งใจไว้
เป้าหมายของสวนมะนาวโห่ลุงศิริ คือการทำให้ลูกค้ากลับมาเยี่ยมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดังนั้นเมนู และของฝากจากที่นี่จึงต้องเปลี่ยนแปลงขยับขยายตลอดทุก 2 – 3 เดือน จะมีสินค้ามะนาวโห่ใหม่ๆ มาวางขายเสมอ ทั้งในร้านศิริสมปองและคาเฟ่ริมน้ำแม่กลองที่หมุนเวียนเมนูตามฤดูกาล
แต่กว่าที่สวนมะนาวโห่ลุงศิริ และแบรนด์ผลิตภัณฑ์แปรรูปสิริสมปองของเขาจะได้รับการยอมรับอย่างทุกวันนี้ ก็ต้องเจอกับอุปสรรคมากมาย โดยเฉพาะพ่อกับแม่ที่ช่วงแรกไม่เห็นด้วยเรื่องการเปิดสวนให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ต้องลงทุน ต้องปรับเปลี่ยน พ่อแม่ไม่เข้าใจว่าทำเพื่ออะไร ดียังไง แค่มาเที่ยวก็น่าจะพอ พ่อแม่เคยขายแบบนี้ ทำแบบนี้ก็ได้เงินอยู่แล้ว ทำไมจะต้องลงทุนเพิ่มต้องปรับเปลี่ยน จึงต้องค่อย ๆ ทำไปเรื่อย ๆ พิสูจน์ให้เขาเห็นว่าแนวคิดเด็กรุ่นใหม่ มันเป็นไปได้ ช่วงเวลาเปลี่ยนนั่นแหละที่ต้องอดทน ไม่ยอมทิ้ง เพราะไม่ใช่ว่ามันจะราบรื่นไปหมด
ในอนาคตคุณทสม์มีโครงการจะร่วมมือกับพี่สาว ต่อยอดผลไม้ชนิดนี้ให้เป็นไวน์เพื่อสุขภาพ เครื่องสำอาง ไปจนถึงสปามาส์กหน้า ทำให้ทุกองค์ประกอบของต้นมะนาวโห่ ได้นำมาใช้อย่างคุ้มค่าและไม่มีส่วนไหนต้องทิ้งเลย
ติดตามช่องทางอื่นๆ ของอายุน้อยร้อยล้านได้ที่
Facbook : อายุน้อยร้อยล้าน http://bit.ly/2zvF8c1
Youtube : อายุน้อยร้อยล้าน http://bit.ly/2YnwtmG
IG IGTV : ryounoi100lan http://bit.ly/2UFdwKK
Line : @ryounoi100lan http://bit.ly/2Tq0oMH
Soundcloud : http://bit.ly/2zrtuyP