จากหนุ่มผิวสีแรงงานอพยพ วัย 28 ปี สู่เจ้าของแบรนด์และดีไซน์เนอร์ “หมอนอิง” ที่ได้รับการยอมรับจาก Vogue อิตาลี

162

ย้อนกลับไปในช่วงปี 2020 ที่หลายคนต้องตกงานเนื่องจากการระบาดครั้งใหญ่ Paboy Bojang หนุ่มผิวสีวัย 28 ปี จากประเทศแกมเบียในทวีปแอฟริกาตะวันตก หนึ่งในผู้อพยพที่เข้ามาลี้ภัยในอิตาลีก็เป็นถูกโดนให้ออกจากการเป็นแรงงานในโรงงานกระเบื้องเช่นกัน ซึ่งมันเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาเริ่มเย็บปลอกหมอนอิงจากเศษผ้าที่ถูกทิ้งเพื่อฆ่าเวลา แต่ใครจะรู้ ว่านั่นมันคือจุดเริ่มต้นชีวิตใหม่ของเขา!

เพราะหลังจาก 1 ปีผ่านไปปลอกหมอนของเขาก็กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วทั้งโลก จนได้รับการแนะนำลงในสื่อชื่อดังต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Vogue หรือ House & Garden ในชื่อ In Casa By Paboy แถมยังได้รับการสัมภาษณ์และยอมรับจาก Vogue อิตาลีอีกด้วย และสิ่งที่ทำให้ผลงานของเขาได้รับความนิยม นั้นไม่ได้มาเพราะโชคช่วย…

ย้อนกลับไปเมื่อ Paboy Bojang อายุได้ 13 ปี ในฐานะลูกชายคนโตและหัวหน้าครอบครัวได้ตัดสินใจเริ่มเรียนเย็บผ้าครั้งแรกเพื่อทำงานหาเงินให้กับครอบครัว โดยที่เขาเริ่มจากการเย็บชุดพื้นเมืองของแอฟริกันซึ่งจะมีระบายเป็นชั้นๆ บางตัวก็มีมากกว่า 1 – 2 ชั้น ซึ่งมันเป็นจุดเริ่มต้นไอเดียของการทำหมอนอิงที่มีผ้าระบายเป็นชั้นๆ ในบริเวณโดยรอบ และเขาก็คิดถูก

หลังจากที่ตกงานและเริ่มทำปลอกหมอนอิงโดยใส่จุดเด่นด้วยการที่มีผ้าระบายอยู่โดยรอบของหมอน พร้อมกับสีสันที่โดดเด่นและสดใส และทำการโพสต์ลงบน Instagram ผลงานหมอนอิงของเขาก็กลายเป็นที่พูดถึงและแพร่กระจายไปบนโลกอินเทอร์เน็ตอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการออกแบบที่ดูแล้วสะดุดตาตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นและความสวยงานของภาพที่ถ่ายออกมา นั่นทำให้ธุรกิจของเขาเติบโตและได้รับความนิยมตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ถึงแม้จะมีการใส่กลิ่นอายวัฒนธรรมของบ้านเกิดแต่หมอนอิงของเขาก็เลือกใช้ผ้าฝ้ายอิตาลี 100% ในขณะที่เนื้อผ้าของบ้านเกิดมากกว่าแต่เขาบอกว่าผ้าฝ้ายอิตาลีนั้นคือสิ่งที่ตอบโจทย์มากที่สุดทั้งเนื้อสัมผัส และสีที่หลากหลาย แถมมันยังเป็นผ้าชิ้นแรกที่เขาไปขอเศษผ้าจากเหล่าแม่บ้านที่ไม่ต้องการแล้วเพื่อมาเย็บทำปลอกหมอน นอกจากนี้เขายังสั่งผ้าทั้งหมดจากซัพพลายเออร์ในท้องถิ่นโดยตรงแบบไม่ผ่านโรงงานอีกด้วย

ถึงอย่างนั้นกว่าที่ Paboy Bojang จะมาถึงจุดนี้เขาต้องข้ามผ่านความอดทนและยากลำบากหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น การถูกเลือกปฏิบัติเนื่องจากเป็นผิวสีและเป็นคนอพยพทำให้ได้รับค่าจ้าง สวัสดิการ และโอกาสในการทำงานที่น้อยกว่าคนทั่วไป ตั้งแต่ที่เขายังทำงานเป็นแรงงานไปจนถึงตอนที่เขาเป็นเจ้าของแบรนด์แล้วก็ตาม

เมื่อก่อนโอกาสจะอพยพย้ายเข้ามาอยู่ประเทศแถบยุโรปนั้นมันยากอย่างมาก อีกทั้งสถานการณ์ในแถบแอฟริกานั้นมันแย่จนเรียกว่า “ฝันร้าย” เลยก็ว่าได้ มีคนอีกจำนวนมากที่ไม่มีเงินช่วยเหลือและไม่สามารถทำงานได้ พวกเขาใช้ชีวิตแบบห่างไกลคำว่าสนับสนุนและช่วยเหลือ ในขณะเดียวกันการทิ้งทุกอย่างแล้วมาเริ่มต้นใหม่ในยุโรปก็เป็นความเสี่ยงไม่แพ้กัน เพราะหากคุณล้ม คุณจะหาทางไปต่อแทบไม่ได้ เพราะความช่วยเหลือที่ยังมีไม่ทั่วถึงกลุ่มคนอพยพนั่นเอง เรียกได้ว่าจะเลือกทางไหนก็ไม่ได้ต่างกันมากเท่าไหร่นัก

ดังนั้นเขาจึงอยากจะเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจและกระบอกเสียงให้กับคนในบ้านเกิดของเขาด้วยการสนับสนุนแรงงานต่างด้าวและคนรุ่นใหม่ พร้อมกับความหวังที่จะเห็นคนในประเทศนั้นเจริญมากขึ้นกว่าเดิม

นี่ถือเป็นเรื่องราวของคนที่เริ่มต้นจาก 0 จริงๆ ซึ่งถ้าพูดกันตรงๆ ต้องเรียกว่าติดลบด้วยซ้ำ แต่เขาก็ไม่ย่อท้อถึงแม้จะโดนไล่ออก เลือกปฏิบัติ หรือต่างๆ นาๆ จนทำให้วันนี้ Paboy Bojang หนุ่มผิวสีผู้อพยพวัย 28 ได้พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นถึงความสามารถได้ด้วยผลงานของเขาแบบที่ไม่ต้องมีคำอธิบายเพิ่มเติม และได้กลายเป็นที่ยอมรับอย่างมากในวงการดีไซน์เนอร์ โดยเฉพาะในมิลาน รวมไปถึงการเป็นแบบอย่างและแรงบันดาลใจให้กับคนในแถบแอฟริกาได้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว

ที่มา :