ทำไมโฆษณาชุดชั้นในถึงมีแค่สีนู้ดและนางแบบที่เซ็กซี่และหุ่นดี?
คำถามนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้หญิงสาววัย 24 ตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัยมาเพื่อปฏิวัติวงการชุดชั้นในของอเมริกา โดยที่ได้ Shakira นักร้องชื่อดัง และ Karlie Kloss แบรนด์แอมบาสเดอร์ของ Calvin Klein 2 อดีตนางฟ้าแห่งวิคตอเรียซีเคร็ท มาเป็นหนึ่งในผู้ร่วมลงทุนจนกลายเป็นแบรนด์ชุดชั้นในที่มูลค่าสูงเกือบ 5 พันล้านบาท!!
Cami Téllez ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Parade วัย 24 ปี ที่ตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบียตั้งแต่อายุ 21 ปี มาก่อตั้งแบรนด์ Parade ด้วยความคิดที่ต้องการเป็นการฉีกกฎเดิมๆ ของการทำแบรนด์ชุดชั้นในทิ้งไป เพราะชุดชั้นในไม่จำเป็นต้องมีแค่สีนู้ด ชมพู แดง หรือขาวดำ และความเซ็กซี่นั้นไม่จำกัดอยู่ที่รูปร่าง แต่มันคืออินเนอร์ เสียง ความรู้สึก ที่สะท้อนจากภายใน โดยตั้งแต่เริ่มต้นชุดชั้นในแบรนด์ของเธอนั้นมีขนาดตั้งแต่ XS – 3XL พร้อมสีสันต่างๆ มากมาย และเลือกใช้นางแบบที่มีรูปร่างหลากหลายเพื่อต้องการสร้างความมั่นใจให้กับผู้หญิงทุกคนว่าพวกเธอก็สามารถมั่นใจเวลาใส่ชุดชั้นในและสามารถเซ็กซี่ในแบบของตัวเองได้
นอกจากนี้ทุกชิ้นยังถูกผลิตขึ้นจากวัสดุรีไซเคิล แถมทุกๆ การชำระเงินลูกค้าสามารถบริจาคยอดชำระ 1% ให้กับองค์กรที่เลือกได้อีกด้วย โดยที่เธอมองว่า มันไม่ใชแค่การรักษ์โลก ความยั่งยืน หรือการกุศล แต่มันคือการ เขียนวัฒนธรรมของการสร้างแบรนด์ยุคใหม่ที่ควรต้องมีสิ่งเหล่านี้เป็นพื้นฐาน
Parade เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในเครือข่ายไมโครอินฟลูเอนเซอร์ หรือผู้มีอิทธิพลบนแพลตฟอร์ม Instagram ด้วยการทำการตลาดแบบ “ล่างขึ้นบน” โดยการเชิญกลุ่มคนเหล่านี้ให้ทดลองใช้สินค้าแบบใหม่ๆ และสามารถโพสต์วิจาร์ณได้อย่างอิสระเพื่อรับฟังข้อเสนอแนะและนำไปปรับปรุงพัฒนาสินค้า ซึ่งนั่นสามารถดึงดูดผู้ติดตามบนโลกออนไลน์ได้อย่างมาก และสิ่งเหลือเชื่อที่ตามมาก็คือลูกค้ากว่าหลายหมื่นคนก็ทำการโพสต์ถึงแบรนด์ Parade ลงบนบัญชีส่วนตัวของพวกเขาโดยที่ไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆ อีกด้วย ซึ่งเป็นการช่วยทำการตลาดแบบที่แบรด์ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ เลยทั้งสิ้น
นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรก Parade ทำยอดขายชุดชั้นในไปมากกว่า 2 ล้านคู่ และล่าสุดก็มีการเปิดระดมทุนจนธุรกิจมีมูลค่าสูงถึง 140 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 4.68 พันล้านบาท โดยได้รับเงินลงมุนจากนักลงทุนอย่าง Neil Blumenthal, Shakira และ Karlie Kloss ทั้งนี้ Téllez หวังว่าแบรนด์ของเธอนั้นจะสามารถเติบโตกลายเป็นคู่แข่งกับแบรนด์ชั้นนำอย่าง Victoria’s Secret, Calvin Klein หรือแบรนด์อื่นๆ ได้ในอนาคตอย่างแน่นอน
ถึงแม้ Téllez จะรู้ว่าการลาออกมาทำสตาร์ทอัพเป็นการตัดสินใจที่เสี่ยง และรู้ว่ามีเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ของสตาร์ทอัพที่จะประสบความสำเร็จ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็บอกว่า “มันคุ้มค่าที่จะเสี่ยง” แต่ในวันนี้เธอก็สามารถพูดได้เต็มปากแล้วว่า “มันเป็นความเสี่ยงที่คุ้มค่ามากจริงๆ”
ที่มา :
https://cnb.cx/2YVS8aY
