ไม่ได้มีต้นทุนชีวิตที่ดี ไม่ได้มีครอบครัวที่ร่ำรวย แต่มีกิจการขนส่งร้อยล้านได้ด้วยการลงมือทำ

19888
  • เคยเป็นพนักงานประจำเงินเดือนเริ่มต้นแค่ 6,000 กว่าบาท ในบริษัทโลจิสติกส์สัญชาติญี่ปุ่น
  • บริษัทได้รับ ใบอนุญาตขนส่งสินค้าโดยรถบรรทุก ได้ทั่วประเทศลาวโดยไม่ต้องมีการเปลี่ยนรถไปใช้ของประเทศลาว ถือเป็น One stop service ที่สะดวกมาก
  • มี Warehouse เพื่อจัดเก็บสินค้าให้ได้ตามมาตรฐาน โดยใช้ระบบซอฟแวร์รองรับและเก็บข้อมูล และสามารถให้บริษัทจัดการขนส่งให้ผ่านระบบแอปพลิชั่น
  • ขนส่งสินค้าไทยไปประเทศลาวกว่า 3,000 ตู้คอนเทนเนอร์ ต่อปี

บริษัทพีเค อินเตอร์เฟรด จำกัด เป็นผู้ประกอบการขนส่งสินค้าผ่านแดน ไทย-ลาว รวมทั้ง พม่าเขมร เวียดนาม และ มาเลย์เซีย ทางรถ และเป็นตัวแทนขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทางเรือและทางเครื่องบิน รวมไปถึงพิธีการศุลกากร ในแต่ละปี พีเค อินเตอร์เฟรด มีการขนส่งสิ่งของไปประเทศลาวกว่าปีละ 3,000 ตู้คอนเทนเนอร์  โดยธุรกิจโลจิสติกส์ระดับใหญ่ที่สามารถทำการขนส่งได้ไปทั่วโลกขนาดนี้ เกิดจากการทุ่มเทแรงกาย แรงใจ จาก คุณอ๊อด คงศักดิ์ ชาครวิโรจน์ (41ปี) หนุ่มกาจญจนบุรี ที่มีเกิดและเติบโตในครอบครัวค้าขาย ในฐานะปานกลางเท่านั้น

       ในวัยเด็กคุณอ๊อด เกิดและเติบโตในจังหวัดกาญจนบุรี ที่บ้านทำค้าขายในตลาดนัด ชีวิตเป็นเด็กต่างจังหวัดทั่วไป เรียนไม่เก่ง ถนัดการเล่นกีฬาและทำกิจกรรม จนเมื่อเอ็นทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ จึงเลือกมาเรียนภาคค่ำที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย โดยที่มีญาติบอกพ่อแม่ว่า ส่งเรียนเอกชนทำไม มันแพง เรียนไปก็คงไม่จบ เมื่อได้ยินอย่างนั้น คุณอ๊อดจึงกลับมาตั้งใจเรียน อย่างเต็มที่ จนสามารถเรียนจบด้วยเกรด 3 กว่า

เมื่อเรียนจบ ปี 2540 ช่วงนั้นเศรษฐกิจแย่มาก สมัครงานหลายที่ก็ไม่มีใครรับ ว่างงานอยู่ 5 เดือน ก็กลับไปช่วยแม่ขายของ จนโดนเรียกสัมภาษณ์งาน มีงานให้ เลือกระหว่างผู้จัดการฝึกหัดของ KFC เงินเดือน 12,000 บาท กับงานบริษัทขนส่งต่างชาติญี่ปุ่น เงินเดือน 6,500 บาท ก็เลือกทำบริษัทญี่ปุ่น  เพราะมองว่าถึงจะเงินเดือนน้อย แต่เห็นโอกาสแล้วว่า ชีวิตจะได้เจอโอกาสดีๆมากกว่า อาจจะมีโอกาสได้ไปต่างประเทศ หรือได้ฝึกภาษา แต่เมื่อเงินเดือนไม่พอใช้จึงต้องทำอาชีพเสริมด้วยการนำบัตรเติมเงินโทรศัพท์และบัตรเครดิตมาขาย จนพบว่าคนที่ทำงานเซลล์มีรายได้สูง จึงอยากจะเปลี่ยนตัวเองไปเป็นเซลล์ในบริษัทโลจิสติกส์ของเดนมาร์ก ก่อนไปสัมภาษณ์จึงพยายามฝึกภาษา ท่องการตอบคำถามเป็นภาษาอังกฤษ จนสัมภาษณ์ผ่านและได้ทำงานจนเป็นเซลล์สำเร็จ จนมีเงินเงินเดือนสูงถึงแสนกว่าบาท ในวัย 28 ปี

จุดเปลี่ยนแรกของชีวิต  เริ่มมาจาก วันหนึ่งมีรุ่นน้องที่เคยเล่นปิงปองด้วยกันในวัยเด็ก ติดต่อมาหาเพื่อสอบถามข้อมูลวิธีการนำเข้าจักรยาน จนนัดพบกันที่บ้านของรุ่นน้อง แล้วพบว่ารุ่นน้องที่เคยมีฐานะธรรมดาเหมือนกันตอนเด็กๆ ตอนนี้มีบ้านหลังโต เป็นเจ้าของบริษัท เมื่อให้คำแนะนำรุ่นน้องเกี่ยวกับเรื่องการนำเข้า พิธีศุลกากรต่างๆ จนรุ่นน้องบอกว่า “มีความรู้ขนาดนี้ น่าจะออกมาเปิดบริษัทของตัวเอง พี่ทำได้แน่ๆ ”  ในตอนแรกบอกรุ่นน้องไปทันทีว่าทำไม่ได้หรอก

แต่เมื่อกลับมาวนคิด เรื่องความสามารถของตนเอง ที่ ทำยอดขายหลักล้านบาทให้บริษัท แล้วตัวเองมีรายได้หลักแสน ถ้าออกมาทำเองก็มีความคิดว่า คงทำรายได้มากกว่านี้ได้แน่นอน จึงตัดสินใจลาออกจากงาน ทิ้งเงินเดือนหลักแสน ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของคนรอบตัว แม้แต่หัวหน้าก็บอกว่าคิดให้ดี มีเงินทุนเหรอ คนทำเจ๊งมาเยอะแล้วนะ อายุคุณเท่านี้มีรายได้จากงานประจำหลักแสนก็ถือว่าเยอะนะ คุณจะทิ้งโอกาสนี้เหรอ สุดท้ายกลับมาถามตัวเองว่า ความฝันของเราอยู่จุดไหน? และได้คำตอบว่า “ใช่ เราอยากเป็นเจ้าของกิจการ” ด้วยความแน่วแน่และมั่นใจในศักยภาพของตนเอง คุณอ๊อดจึงออกมาเปิดบริษัทของตัวเอง

        ช่วงแรกคุณอ๊อดทำธุรกิจคนเดียว โดยไม่มีพนักงาน ทำทุกหน้าที่ ทั้งติดต่อรถ ออกใบเสนอราคา เป็นเซลล์เอง ไปวางบิลลูกค้าเอง ทำงานคนเดียวอยู่ 2 ปี ช่วงแรกก็ขนสินค้าที่มีขนาดเล็กก่อน เป็นลักษณะตู้คอนเทนเนอร์ ขนส่งภายในประเทศ 

จนมาเจอ จุดเปลี่ยนที่สอง เมื่อลูกค้าประจำ ต้องการให้ส่งของไปประเทศลาว กระโดด ลูกค้าประจำอยากส่งสินค้าไปลาว จึงไปหาซัพพลายเออร์ ที่สามารถขนส่งไปลาวได้แต่พบว่ามีแค่บริษัทเดียวที่ทำได้ จึงชวนบริษัทนั้นมาร่วมงานด้วย แต่บริษัทนั้นก็มาสนใจเพราะมองว่าเป็นบริษัทเล็กๆ จนคุณอ๊อดต้องเสียลูกค้าไป  จึงปฏิญาณกับตนเองว่าจะต้องแข่งกับบริษัทพวกนี้ให้ได้ คุณอ๊อดจึงตัดสินใจโฟกัสตลาดลาว อุดจุดบอดของบริษัทยักษ์ใหญ่ ด้วยการทำให้ทุกอย่างเป็นระบบ ทำ One Stop Services คุยกับซัพพลายเออร์เอง หาพาร์ทเนอร์เอง ติดต่อทุกอย่างให้ลูกค้าแบบมาที่เดียวไม่ต้องยุ่งยาก โดยการไปเปิดออฟฟิศเล็กๆที่หนองคายและขยายไปที่ฝั่งลาว ลดความยุ่งยากให้ลูกค้า ทำให้กระบวนการที่ต้องล่าช้า สะดวกและรวดเร็วกว่าเดิม จึงทำให้ PK เริ่มเป็นที่รู้จักของบริษัทที่ต้องการซัพพลายเออร์ในการขนส่งหรือผู้ว่าจ้างขนส่งสินค้ามากขึ้น

แล้วจุดก้าวกระโดด ก็มาถึง เมื่อรู้ว่าจะมีการทำโรงไฟฟ้าที่ประเทศลาว อยากได้งานนี้มากจึงไปดูเส้น ทางว่าโรงไฟฟ้านี้ต้องใช้การขนส่งผ่านเส้นทางที่จังหวัดน่าน ผ่านด่านชายแดนเล็กๆ คิดหาวิธีเพื่อให้ได้งานนี้ทุกวัน จนคุณอ๊อดตัดสินใจไปสร้างออฟฟิศที่น่าน เพื่อรอบริษัททำโรงไฟฟ้าไปสำรวจพื้นที่ขนส่ง พอเห็นออฟฟิศคุณอ๊อด ก็เข้ามาสอบถาม คุณอ๊อดต้องยอมจ่ายเงินเดือนพนักงานเดือนละ 6 หมื่น เป็นเวลา 6 เดือน ตั้งออฟฟิศไว้เพื่อสร้างความเชื่อมั่นบางอย่างให้กับคนจีน สุดท้ายก็ได้งานนั้นมา จนชื่อเสียงขยายไปมากขึ้น จากวันนั้นจนถึงวันนี้คุณอ๊อดก็ยังได้งานจากบริษัทจากจีนที่ทำโรงงานไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง