8 ข้อดีของการเป็นนักลงทุนตัว “เล็กๆ”

2321

หลายคนอาจคิดว่าการเป็นนักลงทุนตัวเล็ก ๆ ลงทุนเอง ใช้เงินส่วนตัวของตัวเอง หรือที่เรียกว่า “นักลงทุนรายย่อย” จะสู้นักลงทุนรายใหญ่ ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำงานด้วยเงินก้อนใหญ่ และการลงทุนขนาดใหญ่ได้อย่างไร? ห่างมองแวบแรกแน่นอนว่า อาจจะดูเป็นเรื่องยาก แล้วยังต้องใช้เวลานานกว่าจะไต่ได้เทียบเท่ากับนักลงทุนรายใหญ่ แต่ในความเป็นจริงการเป็นนักลงทุนตัวเล็ก ๆ ก็มี “ข้อดี” เช่นเดียวกัน!

1. สร้างผลกำไรได้

แม้การเป็นนักลงทุนรายย่อยจะต้องใช้เงินของตัวเองในการลงทุนซื้อขายหุ้น ซึ่งอาจต้องเริ่มจากพอร์ตเล็ก ๆ ไม่เหมือนกับนักลงทุนรายใหญ่ที่สามารถเริ่มลงทุนด้วยเงินก้อนโต แต่หากมองในระยะยาว แม้จะเริ่มจากเงินก้อนเล็ก แต่ก็มีโอกาสร้างผลกำไรที่งอกเงยได้เหมือนกัน โดยเฉพาะในหุ้นตัวเล็ก และหุ้นที่มีสภาพคล่องต่ำ ที่นักลงทุนรายใหญ่ไม่สามารถลงทุนในหุ้นประเภทนี้ได้

2. สร้างอนาคตที่รุ่งเรืองให้คุณและครอบครัวได้

ขึ้นชื่อว่า “การลงทุน” แม้มาพร้อมความเสี่ยง แต่หากมองในระยะยาว ก็ถือว่าคุ้มที่จะเสี่ยง เพราะการเป็นนักลงทุนรายรายย่อย คุณจะมีอิสระทั้งการลงทุน การใช้เงิน และการวางแผนต่าง ๆ หากสามารถบริหารจัดการการลงทุนของคุณได้เป็นอย่างดี อนาคตที่รุ่งเรืองอยู่ไม่ไกล นอกจากนี้คุณยังสามารถสอนลูก ๆ หลาน ๆ ให้ทำแบบเดียวกับคุณ เพื่อให้พวกเขามีโอกาสในการสร้างชีวิตที่ดีแบบคุณมากขึ้น


3. เป็นอีกแหล่งสร้างรายได้เสริมที่ดีต่อ “กระแสเงินสด” ของคุณ

การเป็นนักลงทุนรายย่อย คุณสามารถทำควบคู่กับงานหรือแหล่งสร้างรายได้หลักของคุณ ไม่ว่าจะเป็นพนักงานบริษัท หรือทำธุรกิจขนาดเล็กของตัวเอง เพราะบางครั้งการมีรายได้จากทางเดียว อาจไม่เพียงพอต่อการใช้จ่ายต่าง ๆ ซึ่งการเป็นนักลงทุนรายย่อยมีข้อได้เปรียบตรงที่ ใช้เวลา พลังงาน และความสนใจจากคุณเพียงเล็กน้อย ไม่ต้องคอยนั่งทำงานหรือเฝ้าดูตลอดเวลา แต่คุณจะยังมีรายได้อย่างต่อเนื่องอีกหนึ่งทาง แม้ในขณะที่คุณไม่อยู่ หรือกำลังทำงานหลักอยู่ก็ตาม

4. สามารถต่อยอดเป็นอาชีพหลักได้ ไม่มี “วันเกษียณ”

อย่างที่ข้อก่อนหน้าได้บอกไว้ว่า การเป็นนักลงทุนรายย่อย เป็นอีกแหล่งสร้างได้เสริมที่ดี และสามารถทำควบคู่กับงานหลักได้ แต่อนาคตหากคุณสามารถสร้างระบบการลงทุนและการจัดการกับเงินของคุณได้เป็นอย่างดี สร้างผลกำไรได้มากกว่าการขาดทุน ในอนาคตแม้วันที่คุณถึงวัยเกษียณ ไม่สามารถทำงานหลักที่เคยทำได้แล้ว คุณสามารถต่อยอดการเป็นนักลงทุนรายย่อยให้เป็นอาชีพหลักได้ เพราะมันเป็นงานที่ “ไม่มีวันเกษียณ” และคุณจะยังทำต่อไปได้เรื่อย ๆ

5. ทำได้ง่ายกว่าที่คิดและเคยเป็นมา

บางคนยังคิดว่าการจะประสบความสำเร็จในฐานะนักลงทุนได้ จำเป็นต้องมีความรู้ในเรื่องของเศรษฐศาสตร์เชิงลึก ต้องศึกษาเกี่ยวกับเรื่องการเงินให้รอบด้าน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ผิด! เพราะปัจจุบันมีผู้คนทั่วไปหลายสิบล้านคนทั่วโลกที่ใช้ชีวิตประจำวันปกติ ควบคู่ไปกับการลงทุนอย่างอดทนแบบระยะยาว โดยที่พวกเขาไม่ต้องใช้ความพยายามเหมือนเมื่อก่อน นอกจากนี้ ความคิดที่ว่าต้องใช้เงินก้อนใหญ่เพื่อลงทุน นั่นก็ผิดเช่นกัน เพราะทุกวันนี้มีเครื่องมือทางการเงินมากมายที่ราคาไม่แพง และทำให้คุณสามารถลงทุนได้ด้วยเงินเพียงเล็กน้อยตามกำลังที่มี

6. มีแหล่งข้อมูลให้ศึกษามากมาย

ด้วยยุคของอินเทอร์เน็ต ทำให้ตอนนี้ใครที่สนใจอยากเป็นนักลงทุน เล่นหุ้น สามารถค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนที่สนใจได้ง่าย ๆ ผ่านเว็บไซต์ต่าง ๆ แทนการเปิดตำรา หรือหนังสือเล่มหนา ๆ ซึ่งเว็บที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด และมีข้อมูลครอบคลุมการลงทุนในประเภทต่าง ๆ ได้แก่ Bloomberg, Market Watch, Investopedia ฯลฯ

7. เป็นสิ่งที่ “ควรทำ”

แม้ข้อนี้อาจจะใช้ไม่ได้กับทุกคน เพราะการเป็นนักลงทุนรายย่อย ไม่ใช่มีแค่ความอยากเป็น ก็เป็นได้เลย แต่ต้องมีเงินทุนในระดับนึง ซึ่งหากคุณไม่ได้เดือดร้อนทางการเงิน มีทุน และอยากต่อยอดเงินทุนก้อนนี้ให้งอกเงยในระยะยาว การเป็นนักลงทุนรายย่อย ก็ถือเป็นสิ่งที่น่าสนใจและควรทำ เพื่อเป็นการสร้างโอกาสให้ตัวเองและครอบครัวในอนาคต

8. ช่วยให้มีอิสระทางการเงินมากขึ้น

การเป็นอิสระทางการเงิน นับเป็นเป้าหมายนึงของหลาย ๆ คน ไม่ได้หมายถึงความร่ำรวย แต่หมายถึงการที่สามารถอยู่ได้ ใช้จ่ายได้โดยไม่เดือดร้อน ซึ่งแหล่งรายได้จากการเป็นนักลงทุนรายย่อยนั้น ถือเป็นการทำเงินแบบ Passive Income ก็คือ เป็นการสร้างรายได้หรือกระแสเงินสดที่ต้องลงทุนลงแรงในช่วงแรก แล้วมีรายได้กลับมาอย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่ได้ไปดูแลมากก็ตาม ดังนั้น เมื่อมองถึงอนาคต แม้คุณจะไม่ได้ทำงานประจำแล้ว แต่เป็นเพียงนักลงทุนตัวเล็ก ๆ และยังมีรายได้ในส่วนนี้อยู่ มันจะพาคุณไปพบกับอิสระทางการเงินแน่นอน

ที่มา :