ทำธุรกิจแบบ “โซโล่เดี่ยว” อย่างไร ไม่ให้หมดไฟ หมดกำลังใจ

231

การทำธุรกิจแบบ “โซโล่เดี่ยว” ลุยเดี่ยวทำด้วยตัวเองเพียงลำพัง แม้จะมีข้อดีหลายประการ ทั้งสามารถลงมือทำได้ทันทีเมื่อเจอสิ่งที่ใช่ แถมยังรวยคนเดียวไม่ต้องแบ่งใคร แต่ในทางกลับกัน ด้วยความที่ทำคนเดียว ไม่มีทีมงานคอยช่วยหรือสนับสนุน จึงอาจทำให้หลายคนเหนื่อยเกินไป จนถึงขั้นหมดไฟ หมดกำลังใจได้ง่าย ๆ และนี่คือ 7 วิธีที่จะช่วยให้โซโล่เดี่ยวหลายคนสามารถทำธุรกิจได้โดยไม่หมดไฟหรือกำลังใจไปก่อน

1. ยอมรับความจริง หยุดโกหกตัวเอง

แน่นอนว่าการเป็นโซโล่เดี่ยวทำงานคนเดียวนั้นมีความยากอยู่แล้ว ไม่ว่าจะตัวงาน ความรับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ดังนั้น อย่าทำอะไรให้ยากขึ้นไปอีกด้วยการโกหกตัวเอง แทนที่จะหมกมุ่นอยู่กับเป้าหมายเดียวที่คุณคิดว่ามันคือความสำเร็จแต่ก็ไม่สำเร็จเสียที แต่จงยอมรับความจริง เปลี่ยนเป้าหมาย และมุ่งเน้นไปที่ว่าคุณยังสามารถสร้างผลกระทบอะไรได้อีกบ้าง และอะไรคือตัวขัดขวางไม่ให้คุณไปถึง เพื่อไม่ให้ความเครียด เข้ามาแทนที่ความสุขและความสำเร็จที่คุณต้องการ

2. ต้องไม่มีข้อแก้ตัวให้ตัวเอง

อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ผู้ประกอบการแบบโซโล่เดี่ยวหมดไฟ และหมดกำลังใจไปง่าย ๆ ก็คือ “การพยายามหาข้อแก้ตัวให้ตัวเอง” เมื่อมีบางอย่างมาขัดขวางไม่ให้คุณทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นกลัวการลองอะไรใหม่ ๆ, คิดมาก, การเปรียบเทียบ หรือแม้แต่สถานการณ์ของธุรกิจที่ไม่ค่อยดี เช่น แพลตฟอร์มของธุรกิจคุณยอดวิวต่ำ ลูกค้าน้อย รายได้น้อยลง แต่คุณกลับแก้ตัวว่าไม่ใช่เพราะคุณ แต่เป็นเพราะอัลกอริธึมของแพลตฟอร์ม

ยิ่งคุณพยายามหาข้อแก้ตัวมาให้ตัวเองเท่าไร คุณจะยิ่งมีความคิดย้อนแย้งในหัวของคุณมากขึ้นเท่านั้น อีกทั้งมันยังไม่ช่วยให้เปลี่ยนความเป็นจริง แต่กลับทำให้เหนื่อยเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น จงเป็นเจ้าของความผิดพลาดของตัวเอง หากคุณต้องการเปลี่ยนผลลัพธ์ให้เปลี่ยน “กระบวนการหรือวิธีการทำงาน” เผชิญหน้ากับมันตรง ๆ และใช้ความพยายามให้มากขึ้น แล้วคุณจะสามารถทำงานคนเดียวได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

3. ไม่มีทางไหนที่ถูกต้องหรือผิด 100%

ในหนึ่งผลลัพธ์ไม่ได้แปลว่าจะต้องมีเพียงหนึ่งทางที่ทำให้บรรลุผลได้ เห็นได้จากสมการต่อไปนี้
1+99 = 100
10×10 = 100
20×5 = 100
50+50 = 100

จะเห็นว่าสมการเหล่านี้ไม่มีข้อใดผิด ล้วนได้คำตอบ 100 เช่นเดียวกัน ดังนั้น ทำไมเราถึงต้องยึดติดกับวิธีใดวิธีหนึ่งในการทำบางสิ่งให้สำเร็จ? ดังคำพูดของ Bruce Lee ที่ว่า “ซึมซับสิ่งที่มีประโยชน์ ละทิ้งสิ่งที่ไม่ใช่”

จำไว้ว่า ไม่มีขนาดเดียว หรือแบบเดียวที่เหมาะกับทุกคน ความสมบูรณ์แบบไม่ได้พาเราไปทุกที่ ในทางกลับกัน แต่มันจะหยุดการทำงานของเรา จนอาจนำไปสู่ความคิดที่น่ากลัวอย่าง “ถ้าฉันล้มเหลวล่ะ คนอื่นจะคิดยังไงกับฉัน?” ถ้าวิธีแรกที่ใช้ไม่ใช่สำหรับคุณ ก็แค่ลองวิธีใหม่ก็เท่านั้น

4. การแบ่งเวลาให้ดี คือ กุญแจสำคัญ

เมื่อคุณเป็นนายตัวเอง แถมยังทำงานคนเดียว แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมา คือ การทำงานไม่เป็นเวลา ซึ่งนี่ถือเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้โซโลเดี่ยวหลายคนหมดไฟในการทำงาน ดังนั้น เพื่อไม่ให้คุณต้องทำงานหนักเกินไป คุณต้องรู้จักแบ่งเวลา เพราะการแบ่งเวลาจะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากวันของคุณ โดยการจัดลำดับความสำคัญของงานตามความสำคัญ ความเร่งด่วน และคุณค่า นอกจากจะช่วยให้คุณมุ่งเน้นไปที่งานที่สำคัญที่สุดก่อนแล้ว ยังให้ความชัดเจนเกี่ยวกับสิ่งที่คุณต้องทำในแต่ละวันด้วย

5. อย่าไล่ล่าชัยชนะเร็วเกินไป

การไล่ล่าชัยชนะ หรือการเร่งทำบางสิ่งเพื่อให้สำเร็จรวดเร็วเกินไป อาจนำไปสู่การสูญเสียครั้งใหญ่ เช่น การที่คุณเลือกทำงานในวันหยุดเพื่อเงินมากกว่าการพักผ่อน ทำให้วันแห่งการพักผ่อนของคุณเลือนหายไป แต่สิ่งที่ได้กลับมาไม่ใช่เงิน แต่กลายเป็นความเหนื่อยล้า ความเครียด หรือโรคภัยต่าง ๆ จำไว้ว่า อย่ารีบเร่งลงมือทำอะไรเร็วเกินไป ให้เวลากับกระบวนการทำงานของคุณ ให้ตัวเองได้ทดลองและเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ให้มาก จะทำให้คุณเจอชัยชนะที่เป็นชัยชนะจริง ๆ

“คนที่รักการปีนเขาจะไปได้สูงกว่าคนที่แค่ชอบชมวิวจากยอดเขา” – Shahil Bloom นักลงทุน, ครีเอเตอร์ และผู้ประกอบการ

6. โกงตัวเองด้วยการใช้ด้านลบในตัวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

รู้หรือไม่? ด้านลบในตัวบางอย่างสามารถเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของคุณได้ ซึ่งตัวอย่างที่ดีที่สุดในเรื่องนี้ก็คือ “พลังแห่งความขี้เกียจ” ในขณะที่หลายคนมองคนขี้เกียจไปในทิศทางลบมากกว่าดี แต่ในขณะเดียวกันคนขี้เกียจกลับประสบความสำเร็จมากมาย เพราะคนเหล่านี้มักจะมองหาวิธีที่ฉลาดที่สุดในการทำงานสิ่งต่าง ๆ ให้สำเร็จ โดยที่ตัวเองไม่ต้องทำอะไรมาก

7. อย่าคิดถึงแต่งานในเวลาที่คุณไม่ได้ทำงาน

เชื่อหรือไม่ว่าสิ่งนี้ถือเป็นสิ่งที่สำคัญแต่กลับทำได้ยากยิ่ง โดยเฉพาะการเป็นโซโล่เดี่ยวที่ต้องทำงานทุกอย่างเองทั้งหมด จึงอาจทำให้ในเวลาพักผ่อนบางครั้งของคุณ อดคิดถึงงานไม่ได้ แต่เพื่อให้ตัวเองไม่หมดไฟไปง่าย ๆ จงให้สมองของคุณได้พักบ้าง เมื่อคุณไม่ได้อยู่ในช่วงเวลาของการทำงานก็อย่าคิดถึงงานหรือแผนการในอนาคต หากิจกรรมทำ ออกไปเที่ยว นอน หรือนั่งสมาธิ เพื่อชาร์จพลังให้ตัวคุณเอง ก็จะช่วยให้สมองของคุณทำงานและประมวลผลได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อคุณเริ่มทำงานอีกครั้งมากขึ้น

ที่มา : https://shorturl.asia/zJdTy