ใครว่าเป็นนายตัวเองแล้วสบาย? การเป็น Solopreneur หรือผู้ประกอบการคนเดียวนั้นไม่ได้ทำให้คุณสบายขึ้น แต่มันคือการทำงานหนักขึ้นกว่าเดิม “เพื่อคุณตัวเอง” ต่างหาก
ใครที่กำลังฝันที่อยากมีธุรกิจเล็กๆ เป็นของตัวเอง ที่ขยันเมื่อไหร่ก็ทำ เหนื่อยเมื่อไหร่ก็พัก เลือกทำอะไรตามความสบายใจของตัวเอง ความจริงแล้วมันไม่ใช่แบบนั้น เพราะการเป็น Solopreneur ผู้ประกอบการที่ต้องคอยดูแลกิจการด้วยตัวคนเดียวนั้นต้องมีการวางแผนการทำงานและมีวินัยไม่แพ้กับการธุรกิจอื่นๆ เผลอๆ อาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ เพราะคุณทำมันเพียงคนเดียว
และหากคุณคือคนที่อยากจะเริ่มทำธุรกิจเป็นของตัวเอง วันนี้เรานำเอาคู่มือการเป็น Solopreneur มาฝาก คิดว่าทุกท่านน่าจะได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ไปไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอน
📖คู่มือบทที่ 1- การเริ่มต้นเป็น Solopreneur
คุณไม่ได้เริ่มทำธุรกิจเพราะว่าต้องการทำงานน้อยลง คุณสามารถเริ่มทำธุรกิจได้ถึงแม้ว่าจะเป็นพนักงานประจำอยู่ก็ตาม มันเรียกว่าการสวมหมวกหลายใบ เช่น คุณสามารถเริ่มทำธุรกิจเล็กๆ ด้วยการขายทางออนไลน์ ในขณะที่ทำงานเป็นพนักงานธุรการ และขายขนมเป็นรายได้เสริมได้ ซึ่งมันหมายความว่าคุณต้องทำงานหนักมากขึ้น
แต่ถึงอย่างนั้นคุณก็สามารถหาอะไรมาช่วยทุ่นแรงในงานบางส่วนได้ เช่น หากคุณเลือกขายของออนไลน์ ก็อาจจะหาเทคโนโลยี ระบบการสั่งซื้อสินค้าแบบอัตโนมัติเพื่อให้คุณไม่ต้องมาคอยทำงานเล็กๆ น้อยๆ เป็นการช่วยแบ่งเบาสิ่งที่คุณต้องทำ เพื่อจะได้เอาเวลาไปคิดค้นและพัฒนาสินค้าให้ออกมาโดนใจกลุ่มลูกค้ามากที่สุด รวมไปถึงการทำโฆษณาออนไลน์วิธีใดหรือยิงแอดแบบไหนจะได้ผลดีที่สุดอีกด้วย
หากคุณสามารถทำสิ่งเหล่านี้ให้เกิดเป็นระบบได้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นการทำธุรกิจที่ดี หมายความว่าคุณจะรู้สึกไม่เหนื่อยมากเมื่อเทียบกับการต้องทำทุกอย่างคนเดียวในทุกขั้นตอนอย่างละเอียด ในขณะเดียวกันสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการทำในสิ่งที่คุณชอบ เพราะเมื่อทำในสิ่งที่ชอบแล้วคุณจะรู้สึกทำงานหนักน้อยลง (หลายคนพิสูจน์แล้วว่าเป็นเรื่องจริง!)
อย่างที่ Simon Sinek นักเขียนและนักพูดสร้างแรงบันดาลใจชื่อดังเคยบอกไว้ว่า “การทำงานหนักเพื่อสิ่งที่เราไม่ชอบเรียกว่า ‘ความเครียด’ แต่การทำงานหนักเพื่อสิ่งที่เรารักเรียกว่า ‘แพชชั่น’ ”
📖คู่มือบทที่ 2 – หลังจากงานต่างๆ เริ่มเข้าที่แล้ว ก็ใช้ชีวิตและสร้างสรรค์ทางเดินของตัวเองอย่างเต็มที่ไปเลย!
การเป็น Solopreneur ไม่ได้แปลว่าคุณจะมีรายรับเพียงทางเดียวเท่านั้น โดยเฉพาะคนที่เลือกจะก้าวออกมาเป็น Solopreneur อย่างเต็มตัว เพราะการเป็น Solopreneur หมายความว่าคุณนั้นสามารถสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ได้อย่างไม่มีข้อจำกัด ไม่มีใครมาคอยบอกว่าคุณทำหรือทำอะไรไม่ได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวคุณเอง ดังนั้นจงอย่ากลัวที่จะทำอะไรที่ไม่เคยลองทำ
ใช้เวลานี้ในการทำสิ่งที่อยากทำเช่น งานศิลปะ งานเขียน ทำขนม เทรดหุ้น คริปโต หาคอร์สเรียนเพิ่มทักษะ เป็นโค้ชให้คำปรึกษาคนอื่น หรืออะไรก็ตามที่คุณถนัด คุณจะมีเวลามากขึ้น ทำงานจากที่ไหนก็ได้ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ทุกคนใฝ่ฝัน แม้การเริ่มทำธุรกิจจะไม่ได้ประสบความสำเร็จแบบที่นั่งสบายๆ เงินก็ไหลเข้ากระเป๋า แต่มันก็เป็นการทำงานหนักขึ้นในขณะที่คุณก็ได้มีเวลาค้นพบตัวเองมากขึ้นเช่นกัน
อย่าเชื่อคำพูดที่ว่าการทำธุรกิจจะทำให้คุณสบายและรวยเร็ว คุณต้องรู้ตัวเองก่อนว่ากำลังจะทำอะไร และทำ ทำไม ตัดสินใจเลือกทางเดินชีวิตด้วยตัวเอง และอย่าลืมความเป็นตัวเอง เพียงเท่านี้การทำธุรกิจต่อให้ยากและลำบากแค่ไหน คุณก็จะเต็มใจทำมันอย่างเต็มที่ แม้คำว่าประสบความสำเร็จของแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกัน แต่หากคุณทำมันอย่างมีความสุขและใช้ชีวิตได้อย่างที่อยากเป็น คำว่าประสบความสำเร็จอาจจะไม่จำเป็นมากขนาดนั้นแล้วก็ได้
ที่มา :
