ใครจะคิดบ้างว่าแรงกระเพื่อมจากคลื่นลูกเล็กๆ จะกลายเป็นระลอกคลื่นอันแสนสมบูรณ์แบบ ที่ส่งให้เหล่าเซิร์ฟเฟอร์และเรือลำใหญ่แล่นไปบนผืนน้ำเบื้องหน้าได้อย่างไม่น่าเชื่อ เช่นเดียวกับเรื่องราวของ ‘คุณจอย-รินทร์ลภัส ภูวรัฐวราธรณ์’ ผู้หลงเสน่ห์ของคลื่นลูกเล็กๆ ท้ายเรือที่ใช้ในการเล่นกีฬา Wakesurf จนเธอลุกขึ้นมาก่อตั้ง ‘Pina Wakesurf Club’ ซึ่งนอกจากจะจุดกระแสให้คนไทยได้รู้จักกับกีฬาชนิดนี้กันมากขึ้นในเวลาอันรวดเร็วแล้ว พีน่า เวคเซิร์ฟ คลับ ยังประสบความสำเร็จอย่างก้าวกระโดด นำนักแข่งเวคเซิร์ฟเฟอร์ของทีมคว้าชัยชนะจากการแข่งขัน Taipei Wake Open Online Competition ที่ไต้หวัน และล่าสุดยังได้รับโอกาสในการทำงานร่วมกับแฟชั่นแบรนด์ระดับโลกอย่าง ‘Burberry’ แถมคลื่นเล็กๆ ลูกนี้ยังมาแรงหยุดไม่อยู่ เพราะมีแผนที่จะทำให้เมืองไทยกลายเป็นฮับของบรรดาเวคเซิร์ฟเฟอร์จากทั่วโลกอีกด้วย!

จุดเริ่มต้นจากคลื่นเล็กๆ ท้ายเรือธุรกิจที่เกิดจากความหลงใหล
“จริงๆ จอยเคยลองเล่นเวคเซิร์ฟครั้งแรกเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว แต่ตอนนั้นยังเล่นไม่ค่อยได้หรอกค่ะ เพิ่งมาช่วงโควิดนี้เองที่ทำให้เราได้รู้จักและใช้เวลากับกีฬาชนิดนี้อย่างจริงจังขึ้น เนื่องจากอยู่บ้านไม่มีอะไรทำ ทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ครอบครัวเราก็เลยขับรถไปบึง เพราะสามีคือพี่ก้องจะชอบเล่นวอเตอร์สปอร์ตอย่างเวคบอร์ดอยู่แล้ว และก็มีคนแนะนำนำให้จอยเล่นเวคเซิร์ฟดู เราก็เลยติดใจ ทุกอาทิตย์จอยกับพี่ก้องก็จะพาลูกพาครอบครัวเราขับรถแบกบอร์ดไปเล่นกัน เพื่อให้เขาได้มีโอกาสได้เล่นน้ำอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ ยิ่งจอยได้ฝึกก็รู้สึกอินกับกีฬาชนิดนี้มากขึ้นเรื่อยๆ และทุกครั้งเวลาที่เราลงคลิปหรือลงไอจี ก็มักจะมีเพื่อนถามว่ามันคืออะไร เราก็เลยเข้าใจว่าคนอื่นๆ เขาไม่ค่อยรู้จักเวคเซิร์ฟกันมาก่อนนะ มันเป็นกีฬาที่ค่อนข้างใหม่ในเมืองไทย ก็เลยสปาร์คเกิดเป็นไอเดียว่า ถ้าฉันอยากจะทำธุรกิจเกี่ยวกับเวคเซิร์ฟให้กีฬาชนิดนี้เป็นที่รู้จักในตลาดคนไทย จะทำได้ไหม นี่คือจุดเริ่มต้นที่จอยก่อตั้ง Pina Wakesurf Club ขึ้นมา สาเหตุที่จอยเลือกใช้ชื่อนี้ก็เพราะนึกถึงค็อกเทลที่ชื่อ ‘Pina Colada’ เนื่องจากเวลาที่เราไปทะเลสิ่งแรกที่เรามักจะทำกันคือไปนั่งชิลล์ริมหาดแล้วสั่งพีน่าโคลาดามาจิบ มันสื่อถึงความสนุกสนานเวลาที่นึกถึงทะเล และเป็นคอนเซ็ปต์ของพีน่าฯ ในแบบที่เราอยากจะให้เป็นนั่นคือความสนุกและความสดชื่น”
เสน่ห์ของเวคเซิร์ฟ
เมื่อพบจุดที่ใช่ซึ่งเป็น ‘Sweet Spot’
คลื่นจะพาเราไปข้างหน้า
“ถ้าถามว่าเสน่ห์ของเวคเซิร์ฟอยู่ที่ตรงไหน ตอนแรกเลยต้องบอกว่า จอยเองก็ประหลาดใจเหมือนกันว่าความรู้สึกของเท้าเปล่าๆ ที่ยืนอยู่บนบอร์ดเปลือยๆ บนคลื่นหลังเรือเนี่ยมันจะเป็นไปได้ด้วยเหรอ และจะสนุกจริงหรือ แต่พอเล่นไปได้สักพักจึงค้นพบว่าเสน่ห์ของมันคือ ‘จุดที่ใช่’ ที่เป็น ‘Sweet spot’ หลังคลื่นนั่นแหล่ะ คือจังหวะที่เราเจอจุดที่ใช่แล้วเราปล่อยมือจากเชือกได้ เข้าใจแรงผลักของคลื่น ความรู้สึกเวลาที่เรา ‘Ride on The Wave’ ลอยอยู่บนคลื่น ตอนที่คลื่นมันพาเราไปได้นี่มัน Amazing มากจริงๆ นะคะ แล้วมันทำให้จอยเกิดแรงบันดาลใจ เกิดความหลงใหลที่อยากจะเล่น อยากจะทำให้ได้มากกว่านี้ คือจอยชอบความรู้สึกแบบนี้ มันเป็นความรู้สึกที่ทำให้เรากลับมามีไฟอีกครั้ง เลยคิดว่าตรงนี้แหล่ะคือเสน่ห์ของกีฬาเวคเซิร์ฟสำหรับจอย”
“คลื่นเล็กๆ เนี่ยแหล่ะ ที่มันพาเรามาจนถึงจุดนี้ คือจอยคิดว่ามันเกิดจากความหลงใหลเล็กๆ ที่ทำให้เรารู้สึกว่าเราอยากจะเล่นมันทุกวัน อยากจะมีช่วงเวลาแบบนี้กับครอบครัว กับเพื่อนๆ เพราะในจังหวะที่เราเล่นเนี่ยคนอื่นๆ เขาก็จะคอยเชียร์ และตอนเพื่อนเล่นเราก็เป็นคนเชียร์ คือเวคเซิร์ฟมันไม่ใช่กีฬาเล่นคนเดียว แต่เป็นกีฬาที่ครีเอทโมเมนต์ร่วมกับเพื่อนๆ บนเรือด้วย แล้วเรารู้สึกว่ามันดีจังเลย ก็เลยเสพติดการเล่นเวคเซิร์ฟและตัดสินใจซื้อเรือ แล้วพอซื้อเรือก็คิดว่าทำไมเราไม่ลองทำธุรกิจตรงนี้ดูเลยล่ะ!? คือ…ไม่รู้สิคะ มันเหมือนเป็น gut feeling หรือความรู้สึกภายในที่บอกว่าเราน่าจะลองทำดู เพราะอยากจะทำให้กีฬาเวคเซิร์ฟเป็นที่รู้จักในเมืองไทย ถ้าทำแล้วไม่ประสบความสำเร็จก็ไม่เป็นไร เพราะเมื่อมีเรือฉันก็เล่นเองก็ได้ และเพราะฉันรักมัน”
‘คลื่นพาไป’ เจอ ‘จุดที่ใช่’ จึงแล่นไปข้างหน้า
เหมือนที่คุณจอยบอกว่าหากเจอ ‘จุดที่ใช่’ ที่เป็น ‘Sweet Spot’ คลื่นเล็กๆ ก็ย่อมจะสามารถนำพาให้เราแล่นไปข้างหน้าได้ ซึ่งหลังจากที่ตัดสินใจก่อตั้ง Pina Wakesurf Club ขึ้นมาแล้ว คลื่นเล็กๆ หลังเรืออีกเช่นกันก็นำพาให้ธุรกิจนี้เติบโตและมุ่งไปข้างหน้าในเวลาอันรวดเร็ว
“จากแรกๆ ที่จอยทำพีน่าเพื่อเล่นกันเองสนุกๆ กับพี่ก้อง พอถึงวันที่เราเริ่มเปิดให้บริการจริงๆ ก็มีเพื่อนๆ ที่เขาเห็นจอยเล่นเวคเซิร์ฟ มาถามกันว่าอยากลองเล่นบ้าง ให้ช่วยแนะนำที เวลามีเพื่อนมาเล่น จอยก็จะกระโดดลงเรือไปด้วยแล้วสอนเพื่อน แล้วโมเมนต์ที่ทำให้เพื่อนเล่นได้ เขาได้รู้จักกับความสนุกของเวคเซิร์ฟ มีความสุขและกลับมาเล่นใหม่ มันเหมือนจอยได้ส่งต่อความสุขและความหลงใหลของเราลงไปในทุกส่วนของพีน่าแล้วพอเขาสัมผัสได้ คือเราไม่ได้มีกลยุทธ์อะไรเลย แต่กลายเป็นว่าทุกคนที่ได้มาลองตรงนี้เขาเองก็รู้สึกสนุกและมีความสุขไปกับเราด้วย เขาก็เลยโพสต์และ tag ถึงพีน่าโดยที่เราแทบจะไม่ได้ร้องขอ บางคนพัฒนาความสัมพันธ์จากลูกค้าที่เจอกันทุกอาทิตย์ มาเป็นเพื่อนที่คุยกันเรื่องเวคเซิร์ฟ ว่าทำอย่างไรจึงจะเล่นท่านั้นท่านี้ได้ ทำยังไงจะถ่ายรูปได้สวย จอยรู้สึกว่าแบบนี้มันเป็นความรู้สึกที่ดีว่าเรามาถูกทาง การที่เราได้กระแสตอบรับที่ดีจากเพื่อนๆ คนรอบข้าง ส่งผลให้ยอดจองเยอะขึ้นทุกๆ เดือน จนถึงจุดหนึ่งหลังจากเปิดพีน่าไปได้แค่ประมาณ 3 เดือน ปรากฎว่ามีบุ๊คกิ้งเข้ามาเต็มหมดทุกวัน เราก็มานั่งถามตัวเองว่า จนถึงเดี๋ยวนี้จะจองพีน่าต้องจองล่วงหน้า 1 เดือนแล้วเหรอ ตอนนั้นแหล่ะที่จอยคิดว่าคลื่นเล็กๆ นั้นคงจะพาเรามาถูกทางแล้วจริงๆ”

รู้สึกว่ามาถูกทาง
เมื่อได้ส่งต่อความสุขและความหลงใหลต่อเวคเซิร์ฟให้กับคนอื่นๆ
ร่วมกับเพื่อนๆ คือเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของเวคเซิร์ฟ
จุดก้าวกระโดดของ Pina Wakesurf Club และการได้รับโอกาสจากแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง Burberry
ไม่น่าเชื่อว่าหลังจากที่ Pina Wakesurf Club ที่เพิ่งจะเปิดตัวได้เพียง 3 เดือนในตอนนั้นจะได้รับผลตอบรับที่ดีมากชนิดที่ต้องจองบุ๊คกิ้งกันนานข้ามเดือน และเป็นอีกครั้งที่คุณจอยได้ยินเสียงจากภายในของตัวเองอีกครั้งทำให้เธอตัดสินใจซื้อเรือลำที่ 2 เพื่อจะรองรับลูกค้าได้มากขึ้น และหลังจากนั้นระลอกคลื่นเล็กๆ ก็ยังนำพาโอกาสดีอื่นๆ ตามมาอีกไม่หยุด ซึ่งนั่นรวมถึงการได้รับโอกาสจากแบรนด์แฟชั่นหรูระดับโลกอย่าง Burberry ที่เลือก Pina Wakesurf Club ให้เป็นสถานที่สำหรับ ‘Burberry Takeover’ ในการ Launch Collection TB Monogram อีกด้วย
“เราตัดสินใจซื้อเรือลำใหม่เพราะลำบากใจที่จะต้องปฏิเสธลูกค้า และไม่อยากให้ลูกค้าต้องรอกันนาน หลังจากที่ซื้อเรือลำที่ 2 บุ๊คกิ้งก็ยังเข้ามาเยอะมากอยู่ มันทำให้จอยรู้สึกว่าเราตัดสินใจถูกแล้วจริงๆ ที่ซื้อเรือลำที่สองเพื่อขยายกิจการ และยังรู้สึกภูมิใจมากที่ได้ทำให้เวคเซิร์ฟเป็นที่รู้จักของคนไทยอย่างที่เราตั้งใจเอาไว้ จากตอนแรกที่เราอาจจะแค่ลองทำดู เมื่อมาถึงจุดนี้ยิ่งทำให้แน่ใจว่าเราจะต้องยิ่งจริงจังกับมันให้มากกว่าเดิม โชคดีว่าจอยได้เจอกับโปรเวคเวคเซิร์ฟชาวไต้หวันคนหนึ่งซึ่งเขามาเล่นที่พีน่าชื่อคุณมาคาโน่ (Makano Tsai) คือจอยเห็นเขาเล่นเก่งมาก จนต้องบอกให้ช่วยมาสอนเราหน่อย และกลายเป็นว่าเขาอยากมาร่วมงานกับเรา การมีมาคาโน่มาจอยทีมพีน่า ทำให้จอยได้มองเห็นถึงพีน่าในแง่มุมของความเป็นไปได้ใหม่ๆ นอกจากเป็นแค่ Outdoor & Lifestyle Activity ซึ่งมาคาโน่เองนี่แหล่ะที่ทำให้จอยนึกถึงพีน่าในฐานะของ Wakesurf School และรู้จักกับการแข่งขันระหว่างประเทศที่ไต้หวัน เราจึงส่งเซิร์ฟเฟอร์จากพีน่าในทีม Thailand เข้าไปแข่ง 5 คน จนทีมเราชนะเลิศการแข่งได้ที่ 1 ฝ่ายชาย ส่วนฝ่ายหญิงก็คือตัวจอยเองก็ได้ที่ 5”
“ที่น่าตกใจคือวันเดียวกับที่จอยทราบผลการแข่งขันยังเป็นวันเดียวกับที่จอยได้รับการคอนเฟิร์มจากแบรนด์แฟชั่นหรูระดับโลก อย่าง Burberry ว่าเขาอยากจะร่วมงานกับพีน่า ซึ่งเขาอยากจะนำลายโมโนแกรมคอลเลคชั่นใหม่มาเปิดตัวที่พีน่าเป็นที่แรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใต้โปรเจ็กต์ที่ชื่อว่า ‘Burberry Takeover Pina Wakesurf Club’ นั่นคือจุดก้าวกระโดดที่สำคัญอีกจุดหนึ่งของพีน่า เพราะเป็นครั้งแรกของเซิร์ฟคลับเล็กๆ อย่างพีน่าที่ได้ทำงานร่วมกับแบรนด์ชั้นนำระดับโลก เราได้เห็น Burberry เนรมิตรบึงที่ธรรมดาๆ ของพีน่าให้ดูสวยงามและมีสไตล์สมกับเป็นแบรนด์แฟชั่นระดับโลก ยิ่งพอโปรเจ็กต์นี้มันเกิดขึ้นมาจริงๆ จอยถึงกับรู้สึกว่าโอ้โห! จากตอนแรกที่เรามีเรือแค่ 1 ลำเล็กๆ ยังไม่มีท่าเรือตรงริมทะเลสาปเลยด้วยซ้ำ หาดทรายก็เป็นทรายแห้งๆ ยังไม่ได้ถมทรายขาวละเอียดอะไรเลย มาวันนี้เราได้ร่วมกับ Burberry เนรมิตรบีชบาร์สุดเก๋ออกมาที่ทะเลสาปของเรา และยังทำให้เมืองไทยเป็นที่รู้จักจากต่างชาติไปทั่วโลกในฐานะของจุดหมายปลายทางสำหรับเล่นเวคเซิร์ฟผ่านโปรเจ็กต์นี้อีกด้วย”

‘Burberry Takeover Pina Wakesurf Club’
TB Summer Monogram ลายโมโนแกรมอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ Burberry ถูกนำมาใช้ตกแต่งพื้นที่กลางแจ้งริมทะเลสาป ของ Pina Wake Surf Club ไม่ว่าจะเป็น รถจิ๊ป สปีดโบ๊ท กระดานโต้คลื่น เตียงอาบแดด เก้าอี้ชายหาด บีชเลานจ์ ร่มกันแดด ฯลฯ

TB Summer Monogram ของ Burberry ณ Pina Wakesurf Club
Make Life Better On A Wake Boat
เป้าหมายและก้าวต่อไปของ Pina Wakesurf Club
น่าประทับใจที่คลื่นลูกเล็กๆ ได้นำพาให้ Pina Wakesurf Club ประสบความสำเร็จได้ในเวลาอันรวดเร็วได้ขนาดนี้ แต่สำหรับคุณจอยแล้วนี่ถือว่าเป็นแค่ช่วงเริ่มต้นเท่านั้น ในเวลาที่แล่นไปอยู่ยอดคลื่นและมุ่งหน้าต่อไป เธอยังมีเป้าหมายยิ่งใหญ่กว่านั้นที่วาดฝันเอาไว้ว่าอยากจะไปให้ถึง
“เราไม่ได้ขายแค่กีฬาเวคเซิร์ฟเพียงอย่างเดียว แต่เรายังขายไลฟ์สไตล์บนเรือ เรายังขายโมเมนต์
จอยอยากจะ “Make Life Better On A Wake Boat”
Pina Wakesurf Club จะทำให้เวคเซิร์ฟโตขึ้น
เราจะสร้างคอมมูนิตี้ของเวคเซิร์ฟเฟอร์ให้เกิดขึ้นในประเทศไทยให้ได้”
“จอยเองก็รู้สึกดีใจและภูมิใจมากเหมือนกันนะที่พีน่าประสบความสำเร็จและโตขึ้นได้เร็วขนาดนี้ คือเมื่อมองย้อนกลับไปก็ไม่ได้ว่าทุกอย่างจะได้มาง่ายๆ นะคะ จุดที่ท้าทายที่สุดสำหรับพีน่า คือมันเป็นธุรกิจใหม่ที่ไม่มีใครทำ และเมื่อเราเริ่มต้นมันขึ้นมาก็เลยต้องเรียนรู้ลองผิดลองถูก และสร้างมันขึ้นมาจากศูนย์ ซึ่งจอยเองก็ต้องเสียสละเวลาอันมีค่าที่จะได้อยู่กับลูก กับครอบครัวเพื่อมาทุ่มเทกับงานตรงนี้ ไม่ว่าจะเป็นการเซ็ทระบบการทำงานต่างๆ การสร้างทีมที่ดี แต่โชคดีสำหรับพีน่าที่เรามีทีมงานเล็กๆ ที่ให้ใจกับเรา ซึ่งจอยคิดว่า “Perfect Wave Starts Small” คือความสมบูรณ์แบบมันก็เริ่มต้นจากจุดเล็กๆ ของคนในทีมเราเนี่ยแหล่ะ ไม่ว่าจะเป็นพาร์ทเนอร์เองหรือทีมงานเองที่ร่วมช่วยกันทำให้พีน่าเป็นที่ยอมรับและเตะตาเป็นที่ยอมรับของแบรนด์ระดับโลก ทีมที่ดีเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยพาให้พีน่ามาถึงจุดนี้ ซึ่งคลื่นลูกเล็กๆ ที่ไม่ได้สมบูรณ์แบบสำหรับเรามาตั้งแต่ต้น มันค่อยๆ สมบูรณ์แบบสำหรับเราในที่สุด”
“สำหรับเป้าหมายต่อไปของพีน่า จอยอยากจะ “Make Life Better On A Wake Boat” คือจอยอยากจะทำให้คนรู้สึกว่าเรือคืออีกหนึ่งทางเลือกหนึ่งในการแฮงก์เอาต์ ทะเลสาปและการเล่นเวคเซิร์ฟคือหนึ่งทางเลือกในการมาเที่ยว พบปะสังสรรค์ จอยอยากทำให้เวคเซิร์ฟมันไม่ใช่แค่ Outdoor Activity หรือเป็นแค่เทรนด์ไลฟ์สไตล์ แต่มันต้องเป็นกีฬา ซึ่งจอยจะต้องจัดการแข่งขันขึ้นให้ได้ จอยจะสร้างนักเวคเซิร์ฟ จะสร้างทีมขึ้นมา จะทำให้ทุกคนมองเวคเซิร์ฟเป็นกีฬาเอาต์ดอร์ชนิดหนึ่ง เหมือนที่ทุกคนมองเวคบอร์ด ฟุตบอล เทนนิส ฯลฯ ให้ได้ จอยคิดว่าคอนเซ็ปต์ “Boat Lake Wake Surf” มันเหมาะกับพีน่าฯ ที่สุดแล้ว คือเราไม่ได้ขายแค่กีฬาเวคเซิร์ฟเพียงอย่างเดียว เรายังขายไลฟ์สไตล์บนเรือ เรายังขายโมเมนต์”
“เคยมีคนถามจอยว่าเวคเซิร์ฟมันจะเป็นเทรนด์ที่มาแล้วก็หายไปไหม? จากสมัยก่อนที่คนเราทำงานเสร็จแล้วก็ไปปาร์ตี้ดื่มเหล้ากัน แต่พอหลังจากเกิดโควิดเราจะเห็นได้ชัดเลยว่าคนโหยหาที่จะทำกิจกรรมกลางแจ้งกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Surf Skate ที่ได้รับความนิยมขึ้นมาก เพราะคนต้องการหาที่ออกกำลังให้ตัวเองแอคทีฟ ดังนั้นเวคเซิร์ฟและพีน่าจึงตอบโจทย์ตรงนี้ ซึ่งถามว่าไลฟ์สไตล์แบบนี้จะหายไปไหมจอยคิดว่ามันไม่ใช่ไลฟ์สไตล์ที่ฉาบฉวยแบบนั้น แต่ outdoor lifestyle มันจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนไทยกันมากขึ้น เหมือนเป็น work life balance การสร้างสมดุลชีวิตในอีกรูปแบบ ที่เป็น indoor outdoor balance ซึ่งในปกติชีวิตประจำวันคนเรามักจะทำงานกันอยู่ใน indooor แต่ในขณะเดียวกันก็โหยหาการใช้ชีวิตกลางแจ้ง Pina Wakesurf Club เรากำลังสร้าง ‘New Vibe’ หรือความรู้สึกใหม่ๆ ของการแฮงก์เอาต์ด้วยกิจกรรม outdoor activity เราอยากให้คนเห็นว่าการมาแฮงก์เอาต์ข้างนอกบนเรือ มันสำคัญสำหรับคุณ”
“จอยอยากจะให้พีน่าไปถึงจุดที่ว่าเวคเซิร์ฟมันไม่ใช่แค่ Lifestyle หรือ Outdoor Activity แต่อยากจะให้มันต่อยอดไปจนถึงขั้นที่ว่าในอนาคตหลังจากหมดวิกฤตโควิด และเราเปิดประเทศกันแล้ว เราจะสามารถสร้างเวคเซิร์ฟเฟอร์มากมายขึ้นในประเทศไทย เราสามารถจัดการแข่งขันระดับนานาชาติ เราสามารถที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวด้วยเวคเซิร์ฟขึ้นมาได้ และดึงดูดชาวต่างชาติให้บินมาเล่นที่บ้านเราได้ เมืองไทยจะกลายเป็นฮับเวคเซิร์ฟของเอเชีย จอยเชื่อมั่นว่ายังมีตลาดของนักเล่นเวคเซิร์ฟทั่วโลกอีกมากที่จะบินมายังเมืองไทย เพื่อจะมาแข่งมาเล่นเวคเซิร์ฟ เพราะเมืองไทยเรามีจุดเด่นข้อดีตรงที่อากาศบ้านเราเล่นกีฬาชนิดนี้ได้ตลอดทั้งปี ไม่เหมือนหลายๆ ประเทศที่เขาไม่สามารถเล่นได้เมื่อถึงฤดูหนาว และ Pina Wakesurf Club จะทำให้เวคเซิร์ฟโตขึ้น เราจะสร้างคอมมูนิตี้ของเวคเซิร์ฟเฟอร์ให้เกิดขึ้นในประเทศไทยให้ได้”