ก็แค่อยากขายแว่นตาออนไลน์ พร้อมบริการให้ทดลองใช้ฟรีที่บ้าน กลายเป็นอาณาจักรมูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์

405

ใครจะคิดว่าจากแผนธุรกิจเล็ก ๆ แค่อยากเปิดร้านแว่นตาออนไลน์ราคาสบายกระเป๋า พร้อมบริการให้ทดลองใช้ฟรีที่บ้าน ของนักศึกษาหนุ่ม 4 คนจากคณะบริหารธุรกิจของ Wharton School of Business ในวันนั้น จะกลับกลายมาเป็นอาณาจักร “Warby Parker” มูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 9.9 หมื่นล้านบาท ในวันนี้!

Warby Parker แบรนด์แว่นตาดีไซน์สวย ที่เกิดมาเพื่อแก้ปัญหาเรื่อง “ราคา” แว่นตาในสหรัฐฯ หลังจากที่หนึ่งในนักศึกษาผู้ก่อตั้งบริษัทได้ทำแว่นหายขณะเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งจะเปลี่ยนใหม่ก็ราคาแพงมาก เขาตัดสินใจไม่ซื้อแว่นใหม่ตลอดการเรียนเทอมแรก ทั้งเขายังพบว่าเพื่อนอีก 3 คนของเขาก็เคยประสบปัญหานี้เช่นเดียวกัน นี่จึงจุดประกายไอเดียให้เขาอยากสร้างแบรนด์แว่นตาด้วยแนวคิด “แว่นตาดี ๆ ทำไมต้องแพง” โดยเพื่อนทั้ง 3 คนของเขาก็เห็นด้วยกับไอเดียดังกล่าว

เริ่มแรกพวกเขาคิดแค่ว่าจะเปิดเป็นร้านแว่นตาออนไลน์ ที่ไม่มีหน้าร้าน แต่จะเป็นการบริการส่งให้ถึงบ้าน ที่สำคัญยังมีบริการให้ทดลองใช้ฟรีก่อน ถ้าไม่ชอบก็สามารถส่งคืนได้ แม้ในตอนนั้นโมเดลธุรกิจของพวกเขาจะแปลกไปสักหน่อย แต่กลายเป็นว่าพวกเขาบรรลุเป้าหมายยอดขายของปีแรกในเวลาเพียง 3 สัปดาห์แรก บริษัทจัดส่งแว่นตามากกว่า 100,000 คู่ และมีพนักงาน 60 คน โดยในปี 2015 บริษัทเติบโตมีมูลค่ากว่า 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3.9 หมื่นล้านบาท และเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2020 Warby Parker สามารถก้าวขึ้นสู่ธุรกิจมูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐได้สำเร็จ

ที่มา : Warby Parker


หลายคนอาจสงสัยว่าทำไม 2020 Warby Parker สามารถเดินทางมาได้ไกลขนาดนี้ภายในเวลาเพียง 10 ปี ซึ่งต่อไปนี้คือเหตุผลหลัก 3 ประการ ที่ทำให้วิธีการของพวกเขาได้ผล!

1. พวกเขาเติมเต็มช่องว่างในตลาดด้วยการแก้ปัญหาในโลกแห่งความเป็นจริง

Warby Parker ได้เปลี่ยนทุกสิ่งที่วงการแว่นตาเคยเป็นมา พวกเขาขายแว่นตาแฟชั่นด้วยราคาเริ่มต้นที่ 95 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่คนทั่วไปในสหรัฐฯ สามารถจ่ายได้ และไม่เพียงแค่เปิดเว็บไซต์ขายผ่านออนไลน์เท่านั้น ยังมีโปรแกรมทดลองใช้ที่บ้าน โดยที่ลูกค้าสามารถลองสวมแว่นได้ 5 คู่ที่บ้านฟรี หากไม่ชอบแว่นตัวไหน สามารถส่งคืนกลับมาได้อย่างอิสระ

“แนวคิดนี้มีพื้นฐานมาจาก 2 เหตุผลที่เรียบง่าย หนึ่งคือ แว่นตาไม่ควรมีราคาสูงกว่า IPhone และสอง สามารถขายแว่นตาออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ” หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งกล่าว

ซึ่งแนวคิดดังกล่าว ที่ให้ความสำคัญต่อความสะดวกสบายของลูกค้าก่อน ถือเป็นแนวคิดที่ช่วยเพิ่มยอดขายผลิตภัณฑ์ได้เป็นอย่างดี และพวกเขาก็สามารถเอาชนะ Luxottica ได้ด้วยสินค้าที่มีฟังก์ชันและสไตล์ที่เหมือนกันในราคาถูกกว่าหลายเท่า

2. พวกเขาสร้างชื่อเสียงด้วยคำบอกเล่าแบบ “ปากต่อปาก”

หลังรวบรวมทุนได้กว่า 120,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3,900,000 บาท ผู้ก่อตั้ง Warby Parker ได้ใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มออนไลน์ของแบรนด์เพื่อสร้างชื่อเสียงให้แบรนด์ โดยพวกเขาได้วางรากฐานการบอกต่อแบบปากต่อปากด้วยการว่าจ้างบริษัทประชาสัมพันธ์ในการสร้างโปรไฟล์ Warby Parker ลงใน GQ เมื่อเว็บไซต์เปิดตัวครั้งแรก

โดยบทความ GQ ได้ขนานนาม Warby Parker ว่า “The Netflix of eyewear” เพราะภายใน 48 ชั่วโมง เว็บไซต์ Warby Parker ถูกถล่มด้วยคำสั่งซื้อจำนวนมาก ทำให้บริษัทบรรลุเป้าหมายยอดขายของปีแรก ภายใน 3 สัปดาห์ และสร้างรายชื่อลูกค้าได้กว่า 20,000 ราย

แต่ Dave Gilboa ผู้ร่วมก่อตั้ง Warby Parker ยอมรับว่า “สื่อที่ดีไม่ได้สร้างผลกระทบที่ดีเสมอไป เพราะทุกวันนี้ Warby Parker อาศัยคำพูดจากปากต่อปากมากกว่าสื่อเสียอีก”

3.พวกเขาสร้างภารกิจทางสังคม

Neil Blumenthal กล่าวว่าในช่วงแรก ๆ ของการสร้างธุรกิจ เขาถามตัวเองว่า “เราต้องการสร้างธุรกิจแบบใด” ซึ่งคำตอบที่เขาได้คือ “เราต้องการสร้างธุรกิจที่ส่งผลดีต่อโลก และทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะมาทำงานทุกวัน”

แม้การขายแว่นตาในราคาต่ำเช่นนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อสังคมอยู่แล้ว แต่ผู้ก่อตั้งตัดสินใจที่จะนำแว่นตาไปสู่อีกระดับหนึ่งผ่านโครงการ “แจกของรางวัล” โดยนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท Warby Parker ยังคงให้คำมั่นสัญญาต่อโครงการ “ซื้อคู่ ให้คู่” กล่าวคือ สำหรับการขายแว่นตาทุกคู่ พวกเขาจะบริจาคแว่นตาอีกหนึ่งคู่สำหรับผู้ยากไร้ ซึ่งจนถึงปัจจุบันนี้ โครงการดังกล่าวได้บริจาคแว่นตามากกว่า 8 ล้านคู่ ในกว่า 50 ประเทศทั่วโลกสำหรับผู้คนที่ไม่สามารถซื้อแว่นได้

ขณะที่แว่นตาราคาถูกของ Warby Parker เป็นสิ่งที่ดึงดูดลูกค้า เห็นได้ชัดว่ามีลูกค้าจำนวนมากก็ดึงดูดให้บริษัทมีใจรักในสังคมและต้องการช่วยเหลือผู้อื่นด้วยการบริจาคแว่นตา ซึ่งรู้หรือไม่? ว่านี่คือเหตุผลอันดับหนึ่งที่ทำให้ลูกค้าของ Warby Parker ชื่นชอบและภักดีต่อแบรนด์จนถึงปัจจุบัน เพราะถือว่าเมื่อพวกเขาซื้อแว่นตาแล้ว = ได้ช่วยคนอีกหนึ่งคน

ที่มา : midway

อย่างไรก็ตาม ด้วยการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเน้นการบริการเพื่อลูกค้า รวมถึงความตั้งใจในการทำการกุศลเพื่อสังคม ทำให้ Warby Parker สามารถพลิกโฉมอุตสาหกรรมแว่นตา และปัจจุบัน Warby Parker ก็ถือเป็นหนึ่งในบริษัทแว่นตาที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก

ที่มา : https://bit.ly/3AkaAYC